“สะวัดดิคับปุ/สะวัดดีค่ะ” คือคำทักทายแบบไม่ค่อยชัดคำแรกที่เราได้ยินจากสองสามีภรรยาชาวญี่ปุ่นที่ดูมีอายุที่แฟนของโอคซังเรียกว่า โอก้าซังกับโอโตซัง(คุณพ่อและคุณแม่) ด้วยความเป็นญี่ปุ่นที่พยายามพูดกับคนไทยที่เป็นแฟนของลูกชายอย่างตั้งใจทำให้เราประทับใจในครั้งแรกที่เจอ ให้คะแนนความตั้งใจไปแบบสิบ สิบ สิบ
วันนี้เป็นวันครบรอบ100วันที่คุณปู่ของแฟนเสียชีวิต และได้มีการทำพิธีต่างๆซึ่งทางครอบครัวแฟนก็ให้การต้อนรับที่ดีมาก ได้เข้าร่วมทำพิธีด้วยเสมือนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวแบบว่าเอาจริงๆก็เคยได้ยินมาบ้างว่าคนญี่ปุ่นก็จะมีอคติกับคนเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างเราๆ พอเจอหน้ากันแบบพร้อมเพรียงก็ไม่มีใครรังเกียจเราเลยสักคนนะ
ในเวลาทานอาหารร่วมกัน ที่หัวโต๊ะมีที่นั่งพร้อมรูปของผู้ล่วงลับตั้งอยู่ เสียงซ้อมเคาะกับแก้วก็ดังขึ้น จนทุกคนบนโต๊ะอาหารหันมามอง แฟนเราลุกขึ้นยืนพร้อมกับผายมือมาทางเราให้ยืนขึ้นและให้แนะนำตัว อะไร!!! คือ อะไร!! นี่ไม่ได้บอกมาก่อนเลยว่าจะเป็นทางการขนาดนี้! แฟนกระซิบข้างหูอย่างกับในหนัง “แนะนำตัวสิ มันเป็นธรรมเนียม” เห็นเหงื่อบนไรจอนผมของแฟนแล้วก็คิดว่าคงจะเครียดไม่แพ้กัน เอาว้ะด้วยวิญญาณรางวัลนักพูดที่โหล่สิบสมัยซ้อน ” Hello everybody, อิโจเดส” = “สวัสดีค่ะทุกคน แค่นี้แหล่ะ” ทุกคนเงียบกริบในใจน้ำตาไหลพูดอะไรออกไป แฟนญี่ปุ่นสุดหล่อเห็นท่าไม่ดีต้องมาช่วยกู้หน้า บรรยายสรรพคุณคุณงามความดีแฟนสาวสุดสวย และจบที่บอกว่าต้องขอโทษด้วยที่เธอยังไม่เก่งภาษาญี่ปุ่น
แนะนำตัวเสร็จ นั่งลงก้นยังไม่ทันจะถึงเก้าอี้ พากันรุมถามว่าอายุเท่าไร เรียนจบที่ไหน ทำงานอะไร เจอกับแฟนที่ไหน ชนแก้ว ชนแก้ว โห รัศมีดาราเปร่งประกายมากๆ เด็กๆก็มาชวนคุยตั้งตัวเป็นอาจารย์ศิษย์พี่สอนนับเลขภาษาญี่ปุ่น แบบว่า…เรากลายเป็นคนดูดีมีชาติสกุล รักเด็ก มงลงหลายมงเลยค่ะนาทีนี้ ทุกคนตื่นเต้นที่มีต่างชาติเข้ามาในครอบครัวและแน่นอนค่ะเราคือต่างชาติคนแรกที่เหยียบเท้าเข้ามาในครอบครัวนี้ ก็อยากจะเม้าว่าก่อนหน้านี้น้องสาวแฟนก็เคยมีแฟนเป็นหนุ่มปากีสถานแต่รายนั้นไม่อนุญาตให้เข้าบ้านจนต้องเลิกรากันไป นี่คือเราโชคดีแล้วนะที่เข้ามาได้
เมื่อกลับมาถึงที่บ้าน “คุณจะทิ้งผมไปไหม” อ่าวก็งงสิคะ? แฟนถามแบบหน้าจริงจัง อะไรของเขาอุทานในใจแบบดังๆ แต่พูดกับแฟนแบบเบาๆ เธอเป็นอะไรหรือปล่าว ฉันดูร้ายมากนักหรือไง
“ปล่าว ไม่ได้หมายถึงแบบนั้น ผมหมายถึงว่าผมกลัวคุณจะอึดอัด ที่ทุกคนถามเรื่องราวส่วนตัวของคุณ ผมรู้สึกว่าแม่ของผมกำลังเร่งรัดคุณให้มาเป็นสะใภ้ ตั้งแต่ที่ให้ผมพาคุณมาร่วมงานกับครอบครัวของเราแล้วเพราะนั้นหมายถึงผมกำลังเปิดตัวเจ้าสาวของผมในอนาคต” ว๊ายเขิล ไม่เร่งรัดเลยค่ะรออยู่ค่ะ แฟนกำลังหน้าเครียดกลัวจะโดนทิ้งแต่ทำไมเรารู้สึกเหมือนถูกขอแต่งงาน! จ่ะ คุณสามีมโนไม่เป็นไรค่ะ ดิฉันไม่อึดอัด ดิฉันแฮปปี้ ต้องพร่ำบอกเป็นสิบรอบจนเขาสบายใจ และลงท้ายให้แฟนสบายใจว่าจะแต่งเลยก็ได้นะดิฉันพร้อมนิ้วนางข้างซ้ายยังว่าง
COMMENTS