ระบบระบายอากาศภายในเครื่องบินเป็นอย่างไร? ขึ้นเครื่องช่วงมีโรคระบาดจะปลอดภัยไหม?

จากสถานการณ์ไวรัสโควิด19(Covid-19)ระบาดไปทั่วโลก อุตสาหกรรมการบินได้รับผลกระทบไปเต็มๆเพราะเป็นยานพาหนะลำใหญ่ที่สามารถขนส่งผู้โดยสารจากทั่วมุมโลก สำหรับผู้โดยสารเมื่อประตูเครื่องบินปิดถือว่าเป็นการตัดขาดจากโลกภายนอกจนกว่าประตูเครื่องบินจะเปิดอีกครั้งเมื่อเครื่องถึงจุดหมายปลายทางถึงจะรู้สึกถึงความปลอดภัย ดังนั้นระบบระบายอากาศภายในห้องโดยสารเครื่องบินคงเป็นสิ่งที่หลายคนกังวลและยากต่อการทำความเข้าใจวันนี้โอคซังจึงจะมาไขข้องใจแบบง่ายๆกันค่ะ

เครื่องปรับอากาศบนเครื่องบินทำงานอย่างไร

ระบบระบายอากาศบนเครื่องบิน

ระบบเครื่องปรับอากาศของเครื่องบินแต่ละชนิดจะมีความแตกต่างกันออกไปแต่โดยทั่วไปแล้วจะมีความคล้ายกัน โดยเครื่องบินจะนำอากาศเข้ามาจากนอกเครื่องบิน ผ่านตัวกรองอากาศเข้าสู่เครื่องปรับอากาศ อากาศจะทำการหมุนวนให้เราใช้ แล้วอากาศจะถูกถ่ายออกทางวาล์วปรับความดันท้ายเครื่องนอกห้องโดยสาร โดยระบบระบายอากาศนี้จะหมุนเวียนไปทุกๆ2-3นาที(20-30ครั้ง/ชั่วโมง)ขึ้นอยู่กับรุ่นของเครื่องบิน

ระบบอากาศบนเครื่องบิน

แล้วแบบนี้อากาศก็ไหลเข้ามาแล้วไหลออกท้ายเครื่องคนที่นั่งอยู่ท้ายลำก็เสี่ยงติดเชื้อใช่ไหมคะ?
ไม่ใช่ค่ะ เพราะถ้าเราลองสังเกตดูดีๆเหนือศีรษะเราจะมีรูแอร์พ่นอากาศออกมา แต่รอบๆตัวเราตามขอบผนังเพดานที่รอบที่นั่งที่เรานั่งจะมีช่องระบายอากาศให้ดูดอากาศลงเครื่องกรองที่อยู่ใต้ที่นั่งของเรา อากาศจะหมุนเวียนเข้าสู่เครื่องกรองซ้ำแล้วซ้ำอีก ซ้ำแบบนี้ไปเรื่อยๆ(ไม่ใช่การกรองชั้นเดียวให้คนหายใจแล้วปล่อยออกนอกเครื่องเลย)โดยระบบได้ทำการหมุนเวียนอากาศแบบแนวขวางตามแถวที่เรานั่งลดการไหลเวียนอากาศจากด้านหน้าไปด้านหลัง ความเสี่ยงที่เราจะสูดดมอากาศที่ไม่สะอาดจึงเป็นไปได้ยากมากถึงแม้เราจะนั่งอยู่ที่นั่งท้ายเครื่องก็ตาม นอกจากว่าผู้โดยสารที่นั่งมาข้างๆเราจะมีเชื้อโรคติดตัวมาแต่กรณีนี้ก็ไม่แตกต่างกันกับการที่เราขึ้นรถบัสรถไฟค่ะ ดังนั้นเพื่อการเวียนอากาศสดใหม่ที่ดีควรเปิดแอร์เหนือศีรษะเอาไว้ไม่ต้องปิดนะคะ หนาวก็ห่มผ้ากันไป
ในส่วนของตัวตัวกรองอากาศบนเครื่องบินจะใช้ตัวกรองอากาศประสิทธิภาพสูงสุดแบบ (HEPA: High Efficiency Particulate Air Filter) ทำจากไฟเบอร์กลาส กรองอากาศได้สะอาดถึง99.97% กรองอนุภาคเล็กสุดได้ 0.3 ไมครอนเป็นตัวกรองอากาศแบบเดียวกันกับที่ใช้ในห้องไอซียูโรงพยาบาล ซึ่งไวรัสโควิด19มีขนาดอนุภาคอยู่ที่5ไมครอน ตัวกรองอากาศในระบบปรับอากาศของเครื่องบินโดยสารจึงสามารถกรองได้ปลอดภัยมั่นใจได้ค่ะ
จา โอคซัง
จา โอคซัง

ดังนั้นอากาศบนเครื่องบินที่หลายคนกังวลจึงไม่ใช่สิ่งที่อันตรายที่สุด

จุดที่อันตรายต่อการติดเชื้อโรคมากที่สุดของเครื่องบินอยู่ตรงไหน?

จุดที่อันตรายที่สุดคือบริเวณห้องน้ำบนเครื่องค่ะ เพราะเป็นจุดที่มีการปนเปื้อนของเสีย สารคัดหลั่งต่างๆของผู้โดยสารมากที่สุด จำเป็นต้องมีการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคตลอดเวลา โดยหลายสายการบินก็มีมาตรการให้ทำความสะอาดฆ่าเชื้อโรคตามที่วางแขนลูกบิดประตูและอีกหลายๆที่ที่ต้องมีการสัมผัสบ่อยๆอยู่ตลอดเวลาตลอดการเดินทาง แต่ถ้าไม่ได้ทำความสะอาดทุกครั้งหลังจากที่มีคนใช้เช่นในกรณีการเข้าใช้ห้องน้ำ โดยมีการยืนเรียงคิวต่อแถวเข้าห้องน้ำต่อๆกันเลย แบบนี้อันตรายและน่ากลัวที่สุด เพราะเราไม่มีทางรู้ค่ะว่าคนที่เข้าห้องน้ำก่อนหน้าเรานั้นป่วยอยู่หรือไม่ หรือเราเองที่ป่วยอยู่หรือไม่ ดังนั้นเราจึงต้องมีการเตรียมตัวเพื่อขึ้นเครื่องบินในช่วงมีการระบาดของโรคกันไว้ด้วย ตามวิธีดังนี้

1.แอลกอฮอล์นั้นสำคัญ

เจลล้างมือ

การพกแอลกอฮอล์ติดตัวตลอดเวลาคือสิ่งที่เราต้องทำ โดยที่เราต้องทราบก่อนว่าเราสามารถนำแอลกอฮอล์เช็ดแผล70%ขึ้นเครื่องบินได้แต่ต้องอยู่ในปริมาณที่สายการบินกำหนด โดยโอคซังจะแยกใส่ขวดไม่เกิน100ml 3ขวด เพื่อใช้ฉีดมือตัวเองตลอดเมื่อต้องสัมผัสสิ่งต่างๆรอบตัวในขณะที่อยู่บนเครื่องโดยเฉพาะเวลาที่ต้องเข้าใช้ห้องน้ำบนเครื่อง นอกจากนี้โอคซังลองสังเกตว่าพนักงานแอร์โฮสเตสจะป้องกันตัวเองในเวลาที่บริการเราด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและถุงมือยางตลอดแต่นั่นก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะปลอดภัยเพราะพนักงานก็จับนั่นจับนี่หลายอย่างหลายที่ก่อนที่จะมาบริการเรา จึงมีโอกาสที่พนักงานไปสัมผัสเชื้อโรคจากผู้โดยสารท่านอื่นแล้วส่งผ่านมาถึงเราก็เป็นได้ ดังนั้นการที่เราพกแอลกอฮอล์ติดตัวเอาไว้ใช้เช็ดเองจึงสบายใจมากกว่า หรือบางครั้งก็ใช้เช็ดทำความสะอาดโต๊ะทานข้าว แต่จะเลี่ยงการเช็ดพื้นที่ที่เป็นหนังเช่นตัวเบาะต่างๆเพราะอาจทำให้หนังเบาะเสียหายได้

2.อย่าลืมใส่หน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัย

หน้ากากอนามัยคือสิ่งที่ขาดไม่ได้และต้องใส่ไว้ตลอดเวลาที่นั่งอยู่ในที่นั่งของเราเพราะเป็นอุปกรณ์ที่ลดการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้เป็นอย่างดี ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจที่ตรงกันว่าหน้ากากอนามัยจะจำเป็นกับผู้ป่วยมากกว่าคนปกติ แต่เราไม่มีทางรู้ได้ว่าตอนนี้เรารับเชื้อหรือเจ็บป่วยอยู่หรือปล่าว การมีจิตสำนึกต่อส่วนรวมคือสิ่งที่เราควรทำเพื่อลดการกระจายตัวของเชื้อโรคออกไปเป็นวงกว้าง

เราอาจจะกังวลว่าจะติดเชื้อจนลืมไปว่าหากเราป่วยเราจะเป็นคนแพร่เชื้อซะเอง เช่น ในขณะที่ไอหรือจาม ละอองน้ำลายของเราสามารถกระจายไปโดนคนอื่นได้ในระยะ2-3เมตรหรือมากกว่านั้นก็เป็นได้ค่ะ ดังนั้นการใส่หน้ากากอนามัยเอาไว้จึงเป็นสิ่งที่ควรทำค่ะ

จา โอคซัง
จา โอคซัง

หากหน้ากากอนามัยแบบปกติไม่มีก็สามารถใช้หน้ากากผ้าทดแทนได้นะคะ

3.พฤติกรรมเลี่ยงเชื้อโรค

รู้หรือไม่คะว่าสาเหตุที่ทำให้เชื่อโรคมีการแพร่กระจายได้มากที่สุดคือพฤติกรรมการใช้ชีวิตค่ะ การที่เราใช้มือจับนู่นจับนี่แล้วมาจับหน้า เกาตา จับหน้ากากอนามัย ทำให้มือของเราสกปรกที่สุด ดังนั้นจึงควรเลี่ยงการจับสิ่งต่างๆรอบตัวรวมถึงหน้ากากอนามัยของเราเองด้วย แต่หากเลี่ยงไม่ได้จริงๆและมีการจับไปแล้วก็ต้องใช้แอลกอฮอล์เช็ดมือทุกครั้ง
จา โอคซัง
จา โอคซัง
 ความคิดเห็นส่วนตัวของโอคคิดว่าการขึ้นเครื่องบินยังมีความเสี่ยงการแพร่เชื้อโรคที่น้อยกว่าการนั่งรถบัสหรือรถสาธารณะต่างๆมากเพราะมีการระบายอากาศที่แทบจะทุกๆ2-3นาที จึงทำให้อากาศภายในเครื่องสะอาด แต่เราไม่ควรชะลาใจและต้องระวังตัวเองเตรียมตัวให้พร้อมดังที่ได้บอกไว้แล้ว เท่านี้เราก็จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยลดปัญหาการแพร่กระจายของเชื้อโรคได้ค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะไขข้อข้องใจของหลายๆคนที่กำลังกลัวการติดเชื้อโรคจากการขึ้นเครื่องบินให้คลายใจลงไปได้บ้าง
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ มาตะเน้

COMMENTS