ที่นั่งScootBiz (Business class) ดอนเมือง-ญี่ปุ่น Boeing787เป็นอย่างไร[รีวิว]

วันนี้เรามาทำความรู้จักScootbizกันค่ะหลายคนอาจจะคุ้นๆกับ Nokscoot แล้วNokscoot กับScootต่างกันอย่างไร ตอบง่ายๆก็คือ NokScootเป็นสายการบินในเครือของScootนั่นเองค่ะ  ซึ่งช่วงนี้โอคซังเดินทางบ่อยทำให้ต้องมาประหยัดเรื่องค่าตั๋วเครื่องบินซะแล้วสิ โอคซังก็เลยลองมาดูตั๋วเครื่องบินของสายการบินต้นทุนต่ำ(Low cost) แต่ก็กลัวเรื่องบริการและกลัวเรื่องขนาดของเครื่องบิน เพราะโดยส่วนตัวโอคซังเคยนั่งเครื่องบินลำเล็กของสายการบินต้นทุนต่ำยี่ห้อหนึ่งแล้วไม่ประทับใจ แต่ครั้งนี้ด้วยงบประมาณที่จำกัดจึงต้องหาข้อมูลดีๆ ก็พบว่า Scootเป็นสายการบินต้นทุนต่ำที่ใช้เครื่องบินลำใหญ่ ทำให้ใจชื้นขึ้นมา แต่ถ้าให้นั่งที่นั่งแบบปกติก็กลัวจะนั่งไม่สบาย(มีความเรื่องมากไปอีก)จึงค้นเจอที่นั่งที่เขียนว่า ScootBiz!!

ScootBizคืออะไร

เครื่องบินScoot

สำหรับสายการบิน5ดาวโดยปกติแล้วจะมีที่นั่งชั้นธุรกิจ(Business Class)อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็น การบินไทย ANA JAL KorenAirหรืออื่นๆอีกมากมาย แต่สำหรับสายการบินLow cost เช่น  Air asia, Scoot,Peach และอีกมากมายจะไม่มีที่นั่งแบบชั้นธุรกิจ แต่เมื่อไม่นานมานี้หลายๆสายการบินต้นทุนต่ำ(Low cost)ก็ได้มีการเพิ่มที่นั่งแบบชั้นธุรกิจเข้ามาในราคาที่ไม่แพงทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจไม่น้อยสำหรับผู้ที่ต้องการเดินทางในราคาประหยัดแต่ได้รับบริการที่ดีมากขึ้น ที่นั่งชั้น Business Class สายการบินScoot เองก็มีเช่นกันซึ่งของสายการบินนี้จะเรียกว่าที่นั่งชั้นธุรกิจ(Business Class) ว่า ScootBiz  นั่นเอง

ราคา ScootBiz ของสายการบินScoot สัญชาติสิงคโปร์ราคาไม่แพงอย่างที่คิด

วันที่โอคซังซื้อตั๋วราคาจะอยู่ที่ประมาณ 17,000บาท สำหรับไฟล์ทที่ใช้บริการวันนี้เป็นไฟล์ทเช้า 9:25 Donmeang – KIX(โอซาก้า,สนามบินคันไซ) มาทำความรู้จักสายการบินนี้กันเลยค่ะว่าจะคุ้มกับเงินที่จ่ายไปหรือไม่ค่ะ

ขั้นตอนการจองตั๋วScootBiz

ในขั้นตอนการซื้อตั๋วสามารถซื้อได้ง่ายๆในเวปต้นทาง

ขั้นตอนการจองScootbitz

ขั้นตอนการจองในเวปไซต์ของสกู้ดค่ะ

เลือกที่นั่งชั้นธุรกิจ ScootBitz

ทำการจองที่นั่งแบบScootBiz ที่นั่ง3D เพราะคิดว่าจะปรับเบาะนอนให้เต็มที่เลยไม่ต้องกังวลเป็นห่วงที่นั่งด้านหลัง

สิ่งอำนวยความสะดวกที่ได้จากสายการบินทุนต่ำกับที่นั่ง ScootBizนี่มีอะไรบ้าง

-อาหารพร้อมเครื่องดื่มฟรี

-ที่นั่งกว้างปรับที่นั่งได้

-น้ำหนักกระเป๋าScootbizสามารถโหลดได้30kg.

ScootBiz สามารถเชคอินช่องพิเศษได้

เมื่อวันเดินทางมาถึง….เริ่มตั้งแต่เชคอิน(สกู้ดใช้เคาน์เตอร์เดียวกันกับนกสกู้ด)

เชคอินที่เคาน์เตอร์กอนเมือง

เนื่องจาก ScootBizจะมีช่องเชคอินของตัวเอง แต่มองหาไม่เจอเพราะไม่มีป้ายบอกอะไรเลย จะสังเกตเห็นว่าช่อง6Dในภาพเป็นช่องบนจอด้านบนตรงทางช่องพิเศษก็ขึ้นว่า ช่องเชคอินสำหรับแบบกรุ้บ ส่วนจอที่ขึ้นว่า Scootbizก็ปนอยู่ในเคาน์เตอร์ของตั๋วชั้นธรรมดา ตอนนี้ทำให้สับสนมากๆ

ที่เชคอินเดียวกันกัยAirasia

ก็เลยถามกับพนักงานว่าช่องเชคอินสำหรับ Scootbizอยู่ตรงไหน ก็ไปยืนต่อ แต่ไม่เห็นป้ายที่บอกแถวของ ScootBiz เลยถามพนักงาน พนักงานจึงชี้ให้รอตรงช่องเชคอินสำหรับกรุ้บ

เมื่อเชคอินแล้วพนักงานเคาน์เตอร์มีความน่ารักป็นกันเองมากๆ ยิ้มแย้มแจ่มใสตลอด ถือว่าเริ่ด ตอนแรกจะขอเปลี่ยนที่นั่ง เขาก็ช่วยดูให้ แต่สุดท้ายในความเรื่องมากของตัวเราเอง ก็เลยไม่เปลี่ยน นั่งที่เดิมนี่แหล่ะคือที่3D

ผ่านตรวจพาสปอร์ต

ต่อแถวตรวจพาสปอร์ต

พอเชคอินแล้วก็เดินเข้ามาช่องพาสปอร์ต สนามบินดอนเมืองในเรื่องนี้ที่ดีคือ สนามบินเล็กทำให้ใช้ระยะเวลาในการเดินไปขึ้นเครื่องไม่นานเลย ทุกที่ที่สำคัญที่ต้องไปก็อยู่ใกล้กันมาก

เพลิดเพลินกับโซนขายของ Duty-free

โซนดิวตี้ฟรีในดอนเมือง

ขนมเครื่องสำอางค์เยอะมาก

คูปองจากคิงพาวเวอร์

เนื่องจากไม่เคยสมัครสมาชิกคิงพาวเวอร์จึงสมัครไว้เลย เพราะได้ยินข่าวแว่วมาว่าภายในสนามบินดอนเมืองแห่งนี้มีเลาท์คิงพาวเวอร์ให้นั่งพักผ่อนทานของอร่อยๆก่อนขึ้นเครื่องได้สำหรับสมาชิกคิงพาวเวอร์ จึงสมัครสมาชิกคิงพาวเวอร์ด้วยการเติมเงิน 3000บาทเข้าไปในหมายเลขพาสปอร์ต แถมยังได้ใบคูปองส่วนลดมาอีก500บาท เท่านี้ก็ได้เป็นสมาชิกเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่เห็นจะได้บัตรสมาชิกเลย

(แอบถามพนักงานมาด้วยนะว่าต่างชาติจะสามารถสมัครบัตรคิงพาวเวอร์ได้หรือไม่ พนักงานตอบมาว่าได้นะ แต่ต้องมีที่อยู่ในประเทศไทยอย่างชัดเจน)

เพลิดเพลินผ่อนคลายในเลาท์ King Power ในสนามบินดอนเมือง

เลาจ์คิงพาวเวอร์

พอซื้อของเสร็จก็เดินออกมาห่างจากตรงโซนดิ้วตี้ฟรีได้นิดนึงหาเลาท์King powerไม่เจอ เลยเดินกลับเข้าไปในดิวตี้ฟรีถามจากพนักงาน พนักงานอุตส่าเดินนำทางมา ปรากฏว่าอยู่ติดกับตรงขายของเลยประตูทางเข้าหรูหราอลังการชอบ เดินเข้ามาข้างในจะเป็นบันไดวนขึ้นไปชั้นบน

เลาท์นี้อาหารมีไม่เยอะ แต่เรื่องบรรยากาศชอบมาก (อ่านรีวิวเลาจ์คิงพาวเวอร์ที่สนามบินดอนเมืองเพิ่มเติม)

นั่งไม่ถึง10นาที เพราะรีบไปขึ้นเครื่องแล้วข้างหน้าเกท 24 ที่ต้องขึ้นเครื่องมีห้องน้ำอยู่ด้วยนะ ห้องน้ำแม้ว่าจะไม่ค่อยสะอาดแต่ก็ยังดีกว่าไม่มีใช้นะคะ

ScootBizได้สิทธิเรียกขึ้นเครื่องก่อนใคร

Gate Scootที่ดอนเมือง

วันนี้ไปรอขึ้นเครื่องที่เกตประตูหมายเลจ24ค่ะ

ป้าย piorityขึ้นเครื่องก่อนใคร

นั่งแบบBusiness Class (ที่Scoot เรียกว่าScootBiz) ถูกเรียกขึ้นเครื่องก่อนอีกเหมือนเคย ที่ตั๋วจะมีตราปั้มสีน้ำเงินๆว่า Board me first  ในเที่ยวบินนี้มีที่นั่ง Business Class แค่ 21ที่นั่ง เพราะฉะนั้นแถวไม่ยาวเลย

ที่นั่งScootBizอยู่ตรงไหน เป็นอย่างไร

เครื่องบินScoot

เมื่อเข้าประตูมาเข้ามาในเครื่องบินแล้วเดินเลี้ยวซ้ายมายังที่นั่งของตัวเอง ที่นั่งScootBizจะอยู่ทางหัวเครื่อง

ทางเข้าเครื่อง Scoot

ที่นั่งแบบScootbitz

ที่นั่งของแบบ ScootBiz นี้กว้าง นั่งสบาย(หากใครเคยนั่ง Premium Economyไฟล์ทระหว่างประเทศจะให้ความรู้สึกที่คล้ายๆกัน)

มาสำรวจที่นั่งกันเลย มีอุปกรณ์อำนวยความสะดวกอะไรบ้าง

ที่วางเท้า

ช่องใส่ของด้านหน้าค่ะ

ที่นั่งสามารถปรับที่รองขาและปรับเอนเบาะหลังได้ในระดับหนึ่งแต่ไม่ถึงกับสามารถปรับเป็นระดับแนวราบได้

ช่อวเสียบปลั๊ก สามารถชาร์ตมือถือชาร์ตคอมอะไรได้บนเครื่องเลยค่ะ

มีที่ชาร์ตไฟให้ฟรี ไม่มีจอทีวีด้านหน้าให้ชม แต่เอ้ะ ยังไม่ได้นั่ง ที่เบาะนั่งก็มีเศษรังแคเต็มเบาะแล้ว อ่ะๆ ปัดสักนิดก่อนนั่ง

สิ่งที่เตรียมมาบริการตัวเองบนเครื่องบินเพื่อการประหยัดงบประมาณ

รองเท้าใส่เดินบนเครื่องบิน

-ผ้าห่มผืนเล็กๆ

-รองเท้าใส่เดินบนเครื่อง

-โน้ตบุค ไอแพด เครื่องเล่นเพลง หนังสือ(เอาไว้เอ็นเตอร์เทรนตัวเอง)

เพราะถ้าไม่เตรียมมาเองอากาศบนเครื่องหนาวมากค่ะแต่ทางสายการบินไม่มีบริการผ้าห่มจึงไปเองจะดีกว่าค่ะเพราะราคาค่อนข้างแพง

บริการที่ได้รับบนเครื่องสำหรับที่นั่งScootBiz

น้ำดิ่มบนเครื่องScoot

เมื่อขึ้นมาบนเครื่องแล้วได้ประมาณ15นาทีขณะที่รอผู้โดยสารให้เต็มเครื่องทางแอร์โฮสเตสในชุดสีเหลืองตัดดำก็นำน้ำมาเสิร์ฟให้ (กรุณาอย่าดื่มหมด!!!ท่านสามารถเก็บไว้ดื่มได้ตลอดการเดินทางเพราะจะเสริฟเครื่องดื่มแค่เพียง2ครั้งเท่านั้น!) พนักงานต้อนรับบนสายการบินนี้ทุกคนดูเหนื่อยล้าแต่ขยันขันแข็งทำงานมากๆ

เมนูอาหารScootbitz

เมื่อนั่งประจำที่แล้วสักพักพนักงานต้อนรับก็มาถามว่า จะรับเครื่องดื่มอะไรคู่กับอาหารที่จองไว้

สาธิตวิธีใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน

รอสักพักประมาณ 25นาที เครื่องก็ขยับทำการบิน พนักงานสาธิตการใช้อุปกรณ์ฉุกเฉิน

บรรยากาศที่นั่งชั้นฑุกิจ

เมื่อเครื่องทำการขึ้นระดับบินได้เลย กระจกในห้องผู้โดยสารก็ถูกปรับเป็นตัดแสงด้านนอกโดยอัตโนมัติ

ปิดม่านกั้นโซนBusiness class

พนักงานปิดม่านกั้นด้านหน้าและด้านหลัง ส่วนของด้านหน้าจะเป็นห้องกัปตัน ครัว และห้องน้ำ ส่วนของด้านหลังจะเป็นที่นั่งแบบชั้นประหยัด

ในเวลา12:20น.ตามเวลาไทยก็เริ่มกางโต๊ะเพื่อเสิร์ฟอาหาร

อาหารชั่นScootbitz

อาหารที่จองมาวันนี้ก็คือข้าวมันไก่สิงคโปร์ และน้ำสไปร์(ที่แอร์มาถามตอนที่เครื่องยังไม่ขึ้น) พร้อมกับสลัด และขนมปัง +น้ำเปล่าอีก1แก้ว(ไม่ควรดื่มหมดควรเก็บไว้ดื่มให้ได้ตลอดทริปเพราะหลังจากนี้จะไม่มีการเสริฟอะไรแล้ว จะเป็นการขายอย่างเดียว)

รสชาติอาหาร ต้องบอกเลยว่า อร่อยมาก!!!! ประทับใจในความอร่อยจนอยากสั่งทานเพิ่ม ข้าวนุ่ม ไก่นุ่ม น้ำจิ้มเข้ากันได้ดีสุดๆ ขนมปังก็หอมเนยจนขึ้นจมูก ถ้าให้คะแนนด้านความอร่อยมีกี่คะแนนก็จะให้เต็ม ถือว่าเป็นจุดเด่นที่ทำให้อยากใช้บริการในครั้งต่อไปเลยค่ะ

หลังจากทานอาหารเสร็จก็นั่งพักผ่อนนอนหลับไปยาวๆจนถึงโอซาก้ากันเลย ระหว่างนี้ก็ได้มีการขายอาหารต่างๆมากมาย แต่ด้วยความที่อยากประหยัดจึงได้อดทนต่อความอร่อยตรงหน้า และทานน้ำ ขนมปังที่เก็บไว้จากอาหารกลางวันที่เสิร์ฟบนเครื่อง

ขนมที่แจกบนเครื่อง

เปิดเพลงใส่หูฟังของตัวเองที่เตรียมมา เพราะหากต้องการรับบริการดูหนังต้องเสียเงินเพิ่ม และจะดูได้โดยเปิดคอมพิวเตอร์ มือถือ หรือแทปเลต แล้วเข้าเวปไซต์ของสกู้ดแล้วทำการซื้อบริการเหล่านี้ ต้องตัดเงินผ่านบัตรเครดิต

ก่อนที่จะทำการจองตั๋ว ScootBiz คิดว่าจะได้บริการตรงนี้ฟรี เพราะมีหลายคนที่รีวิวที่นั่ง ScootBizแล้วได้รับบริการนี้ด้วย แต่เมื่อมาใช้จริงๆ ไม่มีแล้วเสียใจมากต้องซื้อเพิ่มหากใครที่กำลังสนใจที่นั่งแบบกว้างสบายแนะนำเป็นสายการบินอื่นในที่นั่งแบบประหยัดปกติจะดีกว่า เพราะยังได้ ผ้าห่ม และสิ่งเอนเตอร์เทรนอื่นๆด้วย แต่หากใครที่กำลังสนใจสายการบินต้นทุนต่ำ อาหารอร่อย(มากจนตกใจว่าทำไมอร่อยขนาดนี้ อร่อยแบบผิดคาดจริงๆค่ะ) และยังใช้เครื่องบินลำใหญ่ Boeing787 ขอแนะนำ Scoot เลยค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ

มะตะเน้

COMMENTS