วัดคินคะคุจิ(Kinkakuji)หรือวัดทองในภาพความฝันกับความเป็นจริง!ต่างกันอย่างไร!

วัดคินคะคุจิ(Kinkakuji)หรือที่คนไทยเรียกกันจนติดปากว่าวัดทอง(金閣寺,Golden Pavilion)เป็นวัดสไตล์เซนที่เน้นความสงบเรียบง่ายลักษณะเป็นศาลากลางน้ำ เป็นวัดในเกียวโตที่ถูกจัดเป็นมรกดโลกเช่นเดียวกับวัดเงิน(銀閣寺,Silver Pavilion)วัดที่เป็นคู่แฝด แต่วัดทองถูกสร้างก่อนค่ะ หลายคนเมื่อโอกาสมาเที่ยววัดนี้ด้วยตัวเองอาจจะคาดหวังการเข้ามาชมวัดทองด้วยความเพลิดเพลินและผ่อนคลายใช่ไหมคะ? ลืมไปได้เลยค่ะ สภาพความฝันกับคามจริงจะแตกต่างกันขนาดไหนไปชมกันเลย

การเดินทางไปวัดทอง?


ที่มา: google map

การเดินทางไปวัดทองสามารถนั่งรถจากสถานีเกียวโต(Kyoto Station)ไปยังวัดได้โดยตรงเลยโดยนั่งบัสสาย 101 หรือ 205 (ใช้เวลาประมาณ40นที)ไม่ต้องเปลี่ยนสายค่ะ แต่ถ้าใครที่เดินทางจากทางอื่นสามารถนั่งรถไฟสายKarasuma Lineไปลงที่ Kitaoji Stationแล้วต่อรถบัสสาย12, 101, 102, 204หรือ205 เข้าไปที่วัดก็ได้ค่ะ หรือใครที่มาลงสถานีEnmachiก็เดินทางต่อไปที่วัดทองได้ง่ายมากๆเช่นกันโดยรถบัสสาย 204 กับ 205ค่ะ

เที่ยววัดทองวัดสีทองอร่ามมรดกโลก

หากเราเสิร์ชข้อมูลเกี่ยวกับวัดทองในอินเตอร์เนตเราจะเจอกับภาพวัดทองที่สวยงามมากทั้งในฤดูร้อน ฤดูหนาว หรือฤดูใบไม้ผลิ คนที่ไปเยี่ยมชมจะต้องเข้าไปถ่ายรูปที่จุดนี้กันเยอะมาก นักท่องเที่ยวอย่างเราๆก็ตื่นเต้นมากๆที่จะได้เห็นวัดสีทองอร่ามอันนี้ แต่กว่าจะได้รูปสวยๆมารู้หรือไม่ค่ะว่าจะต้องผ่านอะไรบ้าง

วัดคินคะคุจิ

เมื่อเดินทางมาถึงวัดแล้วเราจะเจอกับประตูใหญ่ตรงนี้กับทางโล่งๆยาวๆให้เราเดินเข้าไปได้เลยค่ะ ทางเข้าของวัดจะอยู่ไกลออกไปตรงข้างหน้านู้นเลยค่ะ

วัดคิงคะคุจิ

เจอประตูนี้เมื่อไหร่ยังไม่ถึงนะคะต้องเดินเข้าไปอีกค่ะ

คิงคะคุจิ

คิงคะคุจิ

ทำการซื้อตั๋วที่หน้าประตูทางเข้าได้เลยค่ะ ค่าเข้าชมคนละ400เยน

วัดทอง การเดินทาง

ซื้อตั๋วมาแล้วค่ะ

คินคะคุจิ

ยืนตั๋วให้พนักงานพร้อมรับเอกสารประกอบค่ะ

คิงคะคุจิหน้าร้อน

เมื่อเข้ามาด้านในแล้วจะเจอกับไอน้ำจากเครื่องพ่นไอน้ำ พอดีช่วงที่มาเที่ยววันนี้เป็นฤดูร้อนค่ะบรรยากาศก็เลยจะชุ่มช่ำแบบนี้ เพราะต้องเปิดเพื่อทำให้อากาศข้างในเย็นลง

วัดทอง

เข้ามาด้านในแล้วตกใจมากๆค่ะ เจอคนเยอะมาก เยอะแบบแทบจะเหยียบกันเลย ต่างคนต่างยืนถ่ายภาพกับฉากอาคารนกฟินิกซ์สีทองด้านหลัง

kinkakuji

มองไปทางไหนก็มีแต่คนค่ะ มาถึงตรงนี้ถ้าใครอยากได้ภาพสวยๆต้องเดินไวๆแทรกตัวเข้าไปถ่ายรูปค่ะ

วัดทอง kinkakuji เดินทาง

และนี้คือภาพที่โอคซังแทรกตัวเข้าไปถ่ายออกมาได้ค่ะ ถ้าใครที่ได้ช่องแทรกตัวเข้าไปแล้วถ่ายรูปรัวๆๆๆๆเลยนะคะ

วัดทอง kinkakuji เดินทาง

แล้วค่อยย้ายที่จะได้ได้ภาพหลายๆมุมค่ะ ไม่ยืนนานเพราะคนเบียดกลัวของหายค่ะ

เที่ยวเกียวโต1วัน

เราย้ายกันไปอีกจุดหนึ่งด้านข้างอาคาร ข้างในบริเวณวัดจะเป็นทางเดินแบบวันเวย์เพราะจะนั้นเดินไปเรื่อยๆได้เลยไม่ต้องกลัวหลงค่ะ

มุมนี้คือมุมที่เราเข้าใกล้ตัวอาคารฟินิกซ์ที่สุดค่ะ

วัดทอง เกียวโต ปิดกี่โมง

มุมอีกด้านของวัดทองค่ะ และเมื่อเราเดินไปเรื่อยๆเราจะเจอกันจุดขายเครื่องรางของวัดทองแต่อาคารขายเครื่องรางไม่สามารถภ่ายรูปมาให้ชมได้ค่ะใครที่อยากเลือกซื้อเครื่องรางสามารถเลือกซื้อได้ตามใจชอบเลย

วัดทอง หน้าหนาว

ช่วงที่โอคซังมานี้เป็นช่วงหน้าร้อนดังนั้นจึงจะไม่ได้เห็นบรรยากาศวัดคินคะคุจิแบบหน้าหนาวหิมะปกคลุมแบบในภาพ แต่ถ้าถึงหน้าหนาวเมื่อไรโอคซังจะนำมาอัพเดทให้ชมกันค่ะ

วัดทอง เครื่องราง

คราวนี้เดินไปเรื่อยๆจะเจอกับจุดโยนเหรียญเสี่ยงทายที่มีคนมุงอยู่มากมาย ใครอยากเล่นก็ยืนรอนานหน่อยนะคะ

คินคะคุจิ

เดินมาจนสุดทางจะเห็นเจดีย์น้อยๆอยู่กลางน้ำด้วยค่ะ

เมื่อเดินออกไปจนสุดทางจริงๆก็จะเจอกับจุดขอพรและซื้อเครื่องรางอีกจุดค่ะ ตรงนี้เราสามารถเพลิดเพลินกับการขอพร เขียนคำอธิษฐาน หรือเสี่ยงทายดวงชาตะได้ค่ะ

คินคะคุจิ ประวัติ

เขียนคำอธิษฐานตรงนี้เลย

คินคะคุจิ

จุดขอพรค่ะ

คินคะคุจิ เครื่องราง

เราสามารถทำนายด้วงตรงนี้ได้ค่ะมีแบบภาษาอังกฤษให้อ่านกันง่ายๆด้วยนะคะ

ประวัติวัดทอง

วัดทองเดิมมีชื่อว่าวัดRokuonjiที่สร้างไว้เพื่อเป็นย้านพักของโชกุนอชิกากะ โยชิมิซึ แต่ภายหลังได้ถูกเปลี่ยนเป็นวัดนิกายเซนในปี 1408 และได้เปลี่ยนชื่อเป็นวัดทองKinkakujiที่ได้ไอเดียของชื่อมาจากวัดเงินGinkakujiวัดคู่แฝดวัดเงิน(Ginkakuji)นิยามของคำว่าเรียบง่ายแต่งดงาม(ตอนเหนือวัดน้ำใส),เกียวโตที่สร้างมาทีหลังเพื่อให้ชื่อมีความสอดคล้องกัน ก่อนหน้านี้ในปี1950วัดทองเคยถูกไฟไฟม้ครั้งใหญ่ แต่ก็ได้รับการบูรณะจนเสร็จสิ้นสวยงามดังเดิมในปี1955และคงความสวยมาให้เราชมจนถึงทุกวันนี้

วัดทองปิดกี่โมง

วัดทองเปิดให้เข้าชมทุกวัน ตั้งแต่ 9:00น.-17:00น.

ค่าเข้าชมวัดทองเท่าไร

400円 / ท่าน

วัดทองเป็นวัดที่มีคนมาเที่ยวเยอะมากๆค่ะ แต่ความงามของวัดสวยเหมือนภาพวาดจริงๆ ใครที่อยากชมอย่างจุใจต้องเดินแหวกคนเข้าไปหน่อยค่ะ ถึงจะได้ชมแบบเต็มอิ่มเพราะคนเยอะมากยังไงใครที่มีโอกาสมาเที่ยวเกียวโตก็ลองแวะไปเที่ยวกันได้ค่ะ เขาว่ากันว่ามาถึงเกียวโตต้องไปให้ถึงวัดทองนะคะ

จากวัดทองไปสถานีเกียวโต

โอคซังเห็นว่ามีนักท่องเท่ียวจำนวนมากที่ต่อแถวเพื่อรอขึ้นรถบัสไปยังสถานีเกียวโตกันไม่น้อย แต่น้อยคนนักจะรู้ค่ะว่าหากเพื่อนๆต้องการเดินทางไปสถานีเกียวโตเพื่อนๆสามารถขึ้นรถฝั่งไหนก็ได้ทั้งฝั่งวัดทองหรือฝั่งตรงข้ามวัดทองก็ได้แค่หน้ารถมีคำว่า Kyoto station เขียนอยู่ไม่ว่ายังไงรถบัสก็จะวนไปที่สถานีเกียวโตเสมอ เพราะป้ายบัสฝั่งตรงข้ามวัดทองคนแน่นมากค่ะบางทีเพื่อนๆต้องยืนคอยนานมาก โอคซังจึงขอแนะนำว่าขึ้นฝั่งไหนก็ได้ค่ะ ไม่ต้องกลัว

ที่มา: google map

จากในลิ้งนี้สายรถที่แนะนำคือสาย204 205 และ 50 ค่ะ

จากวัดทองไปวัดเงิน

หลายคนคงสงสัยเกี่ยวกับ[วัดเงิน(Ginkakuji)นิยามของคำว่าเรียบง่ายแต่งดงาม(ตอนเหนือวัดน้ำใส),เกียวโต]วัดนี้คือวัดคู่แฝดของวัดทอง เป็นจุดแลนมาร์คเชคอินที่พลาดไม่ได้อีกหนึ่งที่ มีความงามไม่แพ้กัน วิธีไปวัดนี้ง่ายมาก

โอคซังแนะนำให้เพื่อนๆนั่วบัสสาย204ฝั่งตรงข้ามวัดทอง ลงไปทางทิศใต้(ทางwaratenjin) ผ่านสถานีหลายสถานี ไปลงที่ Ginkakuji michi แล้วเดินต่ออีกนิดหน่อยค่ะ

แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้าค่ะ

มาตะเน้

COMMENTS