หลังจากที่เราเดินทางกันมาอย่างทรหดจากสนามบินอิตามิเข้าสู่เมืองเซนไดตามที่โอคซังได้เขียนไว้ในบทความก่อนหน้านี้แล้ว [ไปเที่ยวเซนไดPart1แลกไมลล์เป็นตั๋วเครื่องบินฟรีกับเจแปนแอร์ไลน์JAL- รีวิวสนามบินอิตามิ,ชมงานแสงสี Sendai!] เมื่อคืนโอคซังเลือกนอนพักที่โรงแรมในเครือของสายการบินเจแปนแอร์ไลน์ เพราะโรงแรมอยู่ติดกับสถานีเซนไดและยังอยู่ใกล้กับสถานที่แรกที่เราจะไปเที่ยวกันในวันนี้ นั่นก็คือ พิพิธภัณฑ์อังปังแม๊นนนนน ร้องเสียงสูงเพราะไม่รู้จักค่ะ แต่ดูจากแผนที่แล้วมันอยู่ใกล้กันไปสักหน่อยคงไม่เสียเวลามาก
ชมพิพิธภัณฑ์อังปังแมนSendai
ถ้าเราดูจากแผนที่เดินออกจากโรงแรมไป9นาทีก็ถึงแล้ว เดินชิวๆก็ใช้เวลาไม่เกิน15นาทีค่ะ ถ้าใครที่มากับครอบครัวหรือมีเด็กๆมาด้วยนั่งแท็กซี่จากโรงแรมหรือสถานีเซนไดได้ไม่เกิน5นาที ค่าแท็กซี่ไม่ถึง 600เยน ก็น่าจะถึงที่หมายแล้วค่ะ
คุ้นกันไหมคะว่าตัวละครนี้มาจากไหนโอคซังจำได้ว่าสมัยตอนเด็กๆเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้อยู่แต่ก็ไม่รู้ว่ามันเป็นที่นิยมถึงขนาดที่ว่ามีการตั้งพิพิธภัณฑ์อันปังแมนขึ้นมา และก็ไม่ใช้พิพิธภัณฑ์แบบธรรมดานะคะมีการจัดการแสดงโชว์ มีร้านขายของฝาก และที่สำคัญคือคนแน่นมากๆๆๆๆๆ ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ค่ะพิพิธภัณฑ์นี้มีที่สาขาโกเบด้วยนะคะ ถ้าใครที่เที่ยวแถบนั้นก็ลองเสริชหาดูกันได้ค่ะ
ตอนแรกโอคซังคิดแค่ว่าลองเข้าชมดูเพราะคุณสามีชอบดูรายการทีวีเด็ก เพื่อเติมฝันวันเยาว์ของคุณสามีก็ลองไปงั้นๆ แต่ความรู้สึกที่ได้กลับออกมาแล้วมันดีมากๆค่ะ มันอิ่มใจ มันมีความสุขเหมือนเราได้กลับไปเป็นเด็กอีกครั้งทั้งๆที่เราแทบจะไม่รู้จักตัวละครเรื่องนี้เลยด้วยซ้ำค่ะ
ตึกเล็กๆนี้เลยค่ะ
ก่อนอื่นเรามาซื้อตั๋วกันก่อนในราคาผู้ใหญ่ที่ 1600เยน/คน (ราคาแอบแพง แอบหวั่นใจว่าจะคุ้มค่ามั้ยนะ) หลังจากที่เราซื้อตั๋วมาแล้วก่อนจะเข้าด้านในพิพิธภัณฑ์เราจะได้รับตราปั๋มสแตมป์ติดที่หลังมือโดยจะต้องฉายแสงอินฟราเรดส่องดูเท่านั้นถึงจะเห็น เอาไว้เผื่อถ้าเราอยากออกไปเดินเล่นข้างนอกหรือเข้าชมในโซนอื่นๆเพียงแค่ยื่นหลังมือให้พนักงานดูพนักงานจะฉายแสงส่องดูว่าเรามีตรานี้ติดอยู่มั้ยเราก็เข้าชมสถานที่อื่นๆหรือกลับมาเข้าชมด้านในได้อีกครั้งค่ะ
นอกการตกแต่งสถานที่ที่เป็นมิตรกับเด็กน้อยตลอดทาง มีการออกแบบทั้งพื้น ผนัง ให้ดึงดูดความรู้สึกของเด็กได้ดีเยี่ยม ตลอดเวลาที่โอคซังเดินอยู่ด้านในพิพิธภัณท์นี้เชื่อไหมคะว่าไม่มีเด็กร้องไห้เลยสักคน!!!! โอ้โหจัดการเด็กได้อยู่หมัดมากๆ ยิ่งในช่วงที่มีการจัดแสดงโชว์ ทั้งผู้ใหญ่และเด็กก็ให้ความร่วมมือร้องเพลง ตบมือ เต้น โอคเองฟังญี่ปุ่นไม่ออกยังอินสุดๆ อมยิ้มตามไปด้วยเลยค่ะ
การแสดงโชว์ค่ะ
มุมนี้เด็กผู้หญิงน่าจะชอบค่ะมีความหวานแหว๋วน่ารัก
ตรงนี้เป็นมุมของบ้านตัวโกงในเรื่องค่ะ มีเด็กให้ความสนใจกันเยอะพอสมควรค่ะ
เติมฝันร้านขายซูชิ
รถไฟปู๊นๆ
มุมทำกับช้าวค่ะ
ส่วนอื่นๆของพิพิธภัณฑ์จะเป็นโซนสนามเด็กเล่นเด็กทั้งชั้น รู้สึกเหมือนเรากลับไปเป็นเด็กอีกครั้งเลยค่ะ ชอบที่สุดคงจะเป็นโซนร้านอาหารจำลองให้เรารู้สึกว่าเป็นคนทำซูชิ เป็นพ่อครัวร้านโซบะและอื่นๆอีกมากมายค่ะ เมื่อเราชมสนามเด็กเล่นจนหนำใจไปแล้วก็มาถึงเวลาซื้อของกันเลยเผื่อใครอยากได้ตุ๊กตาอันปังแมนติดกลับบ้านสักตัว
เลือกดูของไปๆมาท้องร้องเริ่มหิวแล้ว หาอะไรทานดีกว่าก็จำได้ว่าหน้าพิพิธภัณฑ์มีร้านขนมปังอยู่ ไปลองชิมกันดูดีกว่าจะอร่อยเหมือนหน้าตามั้ย
ร้านขนมปังอันปังแมน เข้ากับชื่อของตัวละครที่ทำมาจากขนมปังเป้ะๆ
ตัวละครในเรื่องนี้เป็นตัวละครที่เป็นขนมปังดังนั้นร้านขนมปังที่อยู่ด้านหน้าพิพิธภัณฑ์จึงมีขนมปังที่ออกแบบให้เป็นตัวละครในเรื่องครบทุกตัวที่มี ใครชอบตัวไหนก็เลือกซื้อทานกันได้เลยค่ะ
“รับรองรสชาติค่ะ เย็น หวานและแห้งมาก จะร้องไห้” ถ้าหากว่าทำเสร็จออกมาจากเตาใหม่ๆน่าจะอร่อยมากเสียใจค่ะโอคแนะนำอันที่เป็นขนมปังไส้กรอกค่ะอร่อยมากที่สุกในถาดที่ซื้อมาแล้วในภาพคืออันที่ยาวๆหน้ายิ้มๆผูกโบว์ชมพูค่ะ
หลังจากออกจากพิพิธภัณฑ์อังปังแมนมาแล้ว เพื่อไม่ให้เสียเวลาไปยังจุดเชคอินที่หลายๆที่แนะนำไว้ทั้งpantipหรือถ้าเราเสิชดูจะเจอนั่นก็คือ ปราสาทเซนได!!! ค่ะ
เดินทางไปยังSendai castle ปราสาทอาโอบะ
การเดินทางมายังปราสาทเซนได โอคซังเดินทางโดยรถไฟฟ้าใต้ดินจากสถานีเซนได(Sendai Station)ใช้สาย Tozai Line
ให้ไปที่ Tozai Line ค่ะ ย้ำนะคะว่าไม่ใช่Namboku Line
นั่งไป3ป้ายลงที่ International center ค่ะ
บนรถคนแทบไม่มีโล่งเหลือเกิน
ออกทางประตู1แล้วเดินต่อไปเรื่อยๆ ตลอดทางโล่งมากนึกว่าเมืองร้าง
จากในแผนที่เดินไม่นานแต่ความเป็นจริงนานและเหนื่อยมากค่ะ โอคแนะนำเพื่อนๆให้นั่งรถบัสไปจะดีกว่าค่ะโอคซังเพิ่งจะมารู้ทีหลังว่ามันมีรถบัสไปด้วย!!! ใช้บัสเถอะค่ะจะได้ไม่เป็นภาระต่อตัวเอง มาดูความลำบากที่โอคซังพบเจอค่ะว่าเดินทรหดขนาดไหน
ลองดูภาพความลาดของถนนระหว่างทางที่ขึ้นไปบนเขาค่ะ ต้องเดินขึ้นไปแบบนี้อยู่ประมาณครึ่งชั่วโมง(นี้แบบเดินไวๆแล้วนะ) แต่ถ้าเดินเรื่อยๆคิดว่าน่าจะต้องใช้เวลาสัก 45นาทีค่ะ ดังนั้นคนแก่และคนพิการขึ้นมาไม่ได้แน่นอนค่ะ ต้องแท็กซี่อย่างเดียวเท่านั้น
ผ่านป่าเขาและทางคดเคี้ยวเลี้ยวลด
ถ้าสังเกตในแผนที่จุดประนั้นคือ…เดินมานานแล้วนะยังได้แค่ครึ่งทาง ไปต่อสิคะกลับตัวไม่ทันแล้ว ฮืออออ นึกว่ามาเดินเขา จริงๆคือมาเที่ยวชิวๆนะเนี๊ยะ
จะเป็นลม…
จนเดินขึ้นไปสุดบนภูเขาที่ตั้งของปราสาทเมื่อถึงหน้าประตูแล้วก็เจอกับป้ายรถบัสคนกำลังเดินลงมาเลย!!! ทำให้รู้ว่าอันที่จริงเราสามารถนั่งบัสขึ้นมาได้นั่นเอง ฮืออ จะร้องไห้ ชื่อบัสว่า Loople บัสLoopleนี้จะขึ้น-ลงภูเเขาตรงเข้าสู่สถานีเซนไดได้เหมือนเดิมค่ะ ขึ้นมาได้จากต้นทางที่สถานีเซนไดเลย! (Sendai Station)บัสนี้เป็นบัสแนววินเทจแบบวนหลูบตั้งแต่สถานีเซนไดไปในจุดเที่ยวสำคัญต่างๆค่ะ ย้ำว่าโอคซังแนะนำเพื่อนๆให้นั่งอันนี้แทนรถไฟไม่งั้นเดินเยอะเดินยาวแบบโอคแน่นอน รถLoople สามารถไปลงตามจุดต่างๆระหว่างทางได้เลย โดยรถจะมาทุกๆ20นาที เวลาที่ลงแล้วให้เพื่อนๆถ่ายรูปป้ายรถบัสไว้ก่อนได้เลยเผื่อตอนที่เราเดินกลับมาขึ้นรถจะได้กะเวลารถมาได้ถูกค่ะ และที่น่าตื่นเต้นกว่านั้นคือตลอดทางบนรถจะมีเสียงคอยพากย์บรรยายสถานที่เที่ยวต่างๆที่รถขับผ่านด้วยค่ะ
เมื่อขึ้นยังปราสาทแล้วสิ่งที่เจอคือกำแพงหิน สูงๆ ที่บอกว่าตรงนี้เคยมีปราสาทอยู่ เน้นค่ะ ว่าเคยมีปราสาทอยู่ อ่านไม่ผิดแน่นอน เดินมาจนเหนื่อยมาก ไม่เจอปราสาทอะไรเลย เจอแต่รูปปั้นท่านที่ก่อตั้งเมืองเซนไดที่โอคซังจำชื่อไม่ได้แล้ว โอคหันไปถามคุณสามีว่าไหนหล่ะปราสาท?เพราะสิ่งก่อสร้างที่มองเห็นอย่างเด่นชัดในบริเวณนี้คือตึกห้องน้ำสาธารณะ ได้รับคำตอบว่าที่ยืนอยู่ตรงนี้แหล่ะคือปราสาท! ที่นี่เขาเรียกว่าซากปราสาทเซนได! ไม่ใช่ปราสาทเซนได ให้เข้าใจให้ดีๆ
….. อารมณ์แบบนี้เลยค่ะ …… …… … … . . . . . . . . . .
พูดไม่ออกบอกไม่ถูก ยืนงงๆมองรูปปั้น
แต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้หายเหนื่อยคือ วิวเมืองเซนไดค่ะโดยเราสามารถมองลงมาได้จากตรงนี้ รู้สึกเหมือนเราเป็นผู้พิชิตยอดเขาอะไรแบบนั้น ใช้เวลาเดินขึ้นมาเกือบชั่วโมง แต่ใช้เวลาชมวิวที่10นาที แล้วเดินกลับลงมานั่งค่ะ สงสัยเราจะคาดหวังสูงเกินไป ฮืออ
ใช้ Loople bus กันเถอะ!
เดินทางกลับลงไปที่Sendai stationกันดีกว่าโดยใช้ใช้บัส Loopleรถบัสทัวร์เมืองประจำSendai
ในบัสนี้ค่อนข้างอึดอัดหายใจไม่ออกเลยเพราะคนแน่นมากหมดกันคำว่าวินเทจ ชิลๆ ไม่แน่ใจเพราะวันที่โอคมาวันนี้เป็นวันเสาร์ด้วยหรือปล่าวคนก็เลยแน่นแบบนี้นะคะ
กลับมาถึงสถานีเซนไดกันแล้วที่เป็นเหมือนสถานีปลายทางและต้นทาง ให้คำเดียวคือเหนื่อย!
สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญๆในเซนไดอยู่ห่างกันมากค่ะ ไม่นับแหล่งช้อปปิ้งถ้าจะเที่ยวให้ครบคงต้องใช้เวลาอย่างน้อยๆ 3-4 วัน ครั้งนี้โอคซังมีเวลาเที่ยวเต็มที่เพียงแค่วันเดียวเที่ยวได้เท่านี้ก็เหนื่อยมากๆแล้วค่ะ ถ้าใครมีที่เที่ยวดีๆแนะนำกันเข้ามาได้ค่ะครั้งหน้าอยากไปให้ประทับใจกว่านี้
หลังจากที่ออกจากซากปราสาทเซนไดแล้วโอคซังก็รีบเดินทางกลับไปไปสถานีเซนไดเพื่อนั่งรถไฟไปที่พักใกล้ๆสนามบินเซนไดในอำเภอนาโตริค่ะ เพื่อเดินทางกลับในวันรุ่งขึ้นแบบสะดวกๆค่ะ วันนี้โอคซังเลือกนอนที่[โรงแรม Value the Hotel Sendai ]ค่ะ โรงแรมนี้อาจจะดูธรรมดา แต่จริงๆแล้วเขามีเรื่องราวที่คาดไม่ถึงค่ะ เอาไว้โอคซังจะมาเล่าให้ฟังในบทความต่อไปนะคะ
ติดตามให้กำลังใจอ่านไปด้วยกันเรื่อยๆนะคะ
เจอกันในบทความถัดไปค่ะ
มาตะเน้
COMMENTS