เที่ยวเกียวโตแต่ละครั้งคงหนีไม่พ้นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติหรือวัดวาอาราม แต่จะมีสักกี่คนที่รู้ว่าเกียวโตมีสถานที่สนุกๆที่มีกิจกรรมให้ทำตลอดทั้งวันโดยที่ไม่เบื่อเหมือนกันนะ วันนี้โอคซังจึงจะพาเพื่อนๆมาเที่ยวที่ “Toei Kyoto Studio parkหรือที่คนญี่ปุ่นเรียกว่าToei Egamura” ที่นี่เป็นสตูดิโอยักษ์จำลองเมืองเอโดะทั้งเมืองในพื้นที่เปิด มีกิจกรรมให้ทำเยอะมากทั้งชมการแสดง ทั้งเล่นเกม หรือจะเข้าเรียนดาบแบบซามูไร นินจา มีหมดค่ะคุณขาถ้าได้เข้ามาชมแล้วจะเหมือนกับว่าเราได้หลุดหลงยุคเข้ามาในยุคเอโดะของญี่ปุ่นจริงๆเลย
ที่นี่ไม่ได้มีดีแค่สถานที่ที่ตกแต่งไว้อย่างดีจนเหมือนของจริงแล้วเปิดให้คนภายนอกได้เข้าชมอย่างดียวเท่านั้น แต่ที่นี่เป็นสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำละครโบราณของญี่ปุ่นจริงๆต่างหาก วันไหนที่เพื่อนๆโชคดีอาจจะได้เห็นกองถ่ายกำลังถ่ายทำอยู่ตามมุมต่างๆแบบง่ายๆโจ่งแจ้งสุดๆได้ใกล้ชิดติดไหล่ดาราอยู่บ่อยๆ โอคซังโชคดีมากๆค่ะที่ได้เข้าร่วมอบรมแนะนำที่มาที่ไปของสตูดิโอแห่งนี้และได้เข้าไปยังโซนถ่ายภาพยนต์ในร่มมาอีกด้วยเพิ่งไปได้เห็นกับตามาสดๆร้อนๆก็ต้องรีบมาเล่าต่อโดยไวค่ะ
ค่าเข้าชมเท่าไร
ค่าเข้าชมของที่นี้ราคา2,200เยน/คนค่ะ แต่ถ้าจะเหมาๆไปทั้งปีก็มีนะคะ 6,500เยน/คน ค่ะ
Toei Kyoto Studio park อยู่ที่ไหน
สตูดิโอแห่งนี้อยู่ไม่ไกลจากArashiyama ป่าไผ่ ที่เรารู้จักกันดีค่ะ ดังนั้นใครที่วางแผนเที่ยวในแถบตะวันตกของเกียวโตสตูดิโอยักษ์เอโดะโบราณนี้จึงเป้นจุดหมายปลายทางเชคอินที่ห้ามพลาดค่ะ เหมาะสำหรับทุกเพศทุกวัยสามารถเข้าได้ทั้งครอบครัว
ที่มา google map
เรียนรู้ประวัติศาสตร์วงการภาพยนต์ญี่ปุ่นได้ที่นี่ที่เดียวใช่ไหม?
ที่สตูดิโอนี้ชอบจัดอีเว้นให้คนตื่นเต้นอยู่บ่อยๆ ในวันที่โอคซังเข้ามาในวันนี้จะมีการเปิดอบรมแนะนำวิถีซามูไร ดังนั้นจึงต้องเข้าด้านในประตูลับที่ไม่ใช้ประตูทางเข้าหลักที่บอกว่ามันเป็นมารยาทของซามูไรที่ต้องเข้าทางประตูด้านข้างของปราสาทเท่านั้น
เมื่อเข้ามาแล้วก็ลองมามาความรู้เข้าสมองกันนิดนึงโดยเข้ามาในโซนแรกจะเป็นพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์วงการภาพยนต์ญี่ปุ่นบอกที่มาที่ไปของการทำหนังในญี่ปุ่นว่าเริ่มต้นตั้งแต่เมื่อไร ใครคือเป็นบิดาของวงการภาพยนต์ญี่ปุ่น และประวัติของผู้กำกับที่มีชื่อเสียงได้ถูกรวบรวมไว้ในนี้แล้ว เพื่อนๆสามารถอ่านทำความเข้าใจวงการภาพยนต์ญี่ปุ่นได้แบบเต็มเปี่ยมในนี้ค่ะ
จะสังเกตุเห็นว่ามีภาพถ่ายของคนเหล่านี้อยู่เต็มไปหมดและยังมีอุปกรณ์ทำภาพยนต์ในสมัยต่างๆให้ดูกันแบบเพลินๆอีกด้วย ใครที่รักในงานตัดต่อภาพยนต์หรือสนใจด้านนี้คิดว่าน่าจะอิ่มเอมและตื่นเต้นไม่น้อยค่ะ
สามารถถ่ายภาพได้ไม่อั้นใช่ไหม?
จากชื่อที่เป็นสตูดิโอยักษ์จำลองเมืองทั้งเมือง เราข่ายเงินค่าเข้าชมมาแล้วย่อมถ่ายภาพได้ทั่วทุกที่ยกเว้นโศนเล่นเกมภายในอาคารนะคะ รับรองว่าใครที่ถ่ายรูปได้สวยจะได้ภาพในบรรยากาศเมืองโบราณในมุมต่างๆแบบเต็มที่หลายสไตล์โดยไม่ต้องแย่งที่ถ่ายภาพกับใครค่ะ เพราะพื้นที่มันกว้างมาก
มีฝึกเข้าคอร์สวิถีซามูไรด้วย!
เมื่อชมเบื้องหลังกันไปจนหนำใจแล้ว กลุ่มซามูไรฝึกหัดอย่างเราก็ได้เข้ารับการฝึกวิถีซามูไรแบบใกล้ชิดกับปรมาจารย์ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นอาจารย์ของอาจารย์อีกที อาจารย์ท่านนี้เคยได้รับเชิญไปแสดงเคียงบ่าเคียงไหล่ในบทบอดี้การ์ดของทอมครูซในเรื่อง The Last Samurai มาแล้ว วันนี้อาจารย์มาสอนการใช้ดาบซามูไรแบบตัวต่อตัว ถึงแม้ว่าอาจารย์จะอายุมากแล้วแต่ท่วงท่ายังสง่างามเช่นเคย คาราวะ
เราจะได้ใส่สายคาดเอวที่ใว้ใช้สำหรับเหน็บดาบของเราค่ะ โดยในความเป็นจริงแล้วซามูไรจะมีดาบ2เล่ม หนึ่งเล่มยาว อีกหนึ่งเล่มสั้นเอาไว้ใช้ในระยะการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่ในวันนี้เหล่าซามูไรฝึกหัดได้เรียนดาบแบบยาวกันก่อนค่ะ
หลังจากที่โอคซังฝึกดึงดาบ ยกแขน และฟาดดาบลงด้วยท่วงท่าที่ปวกเปียก แม้ว่าอาจารย์จะมาประกบสอนก็ไม่ได้ดีขึ้น โอคซังก็ได้รู้แก่ใจว่าเราคงไม่เหมาะซะแล้วหล่ะ กลับไปเป็นแม่บ้านหุงข้าวรอสามีกลับบ้านเหมือนเดิมจะดีกว่า5555
กิจกรรมอื่นๆมีอะไรอีก?
หลังจากที่ฝึกกันเสร็จแล้วโอคกับเพื่อนสาวชาวเวียดนามก็พากันไปชมการแสดงการต่อสู้ของนินจา การแสดงในส่วนนี้จะเป็นภาษาญี่ปุ่นทั้งหมดที่โอคซังกับเพื่อนฟังกันไม่ออก แต่ก็อินมากๆๆๆๆ นักแสดงมีอินเนอร์สูง มีการกระโดดลงมาจากที่สูง มีการใช้แอฟเฟคแสงสีเสียงที่เรียกว่าคุ้มสุดๆ การแสดงในส่วนนี้เข้าชมฟรีด้วยนะ
ทางเข้าคืออาคารใหญ่ๆสีสันสดใสอาคารนี้เลย
นักแสดงทุกคนตั้งใจแน่วแน่
ถ่ายรูปคู่กับนักแสดงหลักค่ะ
อาหารในเมืองโบราณนี้แพงไหม?
อาหารข้างในมีอยู่ประมาณสามสี่ร้านราคาไม่ค่อยแตกต่างกันค่ะ แต่โดยส่วนใหญ่แล้วราคาจะอยู่ที่ประมาณ1,000เยนขึ้นไป ดังนั้นเตรียมเงินกันมาให้พอดีนะคะ ข้างในไม่มีเซเว่นหรือแฟมิลี่มาร์ดใดๆค่ะ
โอคซังทานอาหารจีนค่ะ จะมีข้าวผัดและซุปถ้วยเล็กๆราคา800เยน(240บาท) เห็นแบบนี้น้อยๆแต่ทานจริงๆเยอะมากๆ อร่อยค่ะอร่อยมากกว่าหลายๆร้านข้างนอกเยอะเลยค่ะ แต่ถ้ามีน้ำพริกน้ำปลาแบบไทยๆใส่สักนิดจะอร่อยเพิ่มขึ้นไปอีก
รู้ไหมมีบริการเช่าชุดกิโมโนในสตูดิโอด้วย
สรุป
โอคซังคิดว่าที่ Toei Kyoto Studio park แห่งนี้เหมาะกับทุกคนทุกช่วงวัยเที่ยวได้ทั้งวันหรือครึ่งวันไปเลย โอคซังเข้าไปตั้งแต่ 9 โมงเช้าได้กลับออกมาจริงๆคือประมาณบ่าย3 นี่ขนาดว่ายังเข้าทำกิจกรรมไม่ครบ ประกอบกับฝนตกและอากาศหนาวมากเหมือนไข้จะจับเลยกลับก่อน สนุกเกินความคาดหมาย ครั้งหน้าโอคซังจะไปอีกครั้งแต่ครั้งหน้าจะใส่ชุดกิโมโนเข้าไปเดินชิคๆถ่ายภาพมันๆค่ะ
แล้วเจอกันใหม่ในบทความหน้านะคะ
มาตะเน้
COMMENTS