ว่ากันด้วยเรื่องจดทะเบียนแต่งงานกับชาวญี่ปุ่น
เนื่องด้วยมีเพื่อนๆถามเข้ามามากๆว่าผ่านขั้นตอนการแต่งงานภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น และการขอวีซ่าคู่สมรสมาใช้เอกสารอะไรบ้างและมีขั้นตอนอะไรบ้าง เพราะโอคซังได้เอกสารว่องไวเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้โอคซังจึงภูมิใจนำเสนอข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะจดทะเบียนแต่งงานภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น รวมถึงแจกแบบฟอร์มการแปลเอกสารให้กับเพื่อนๆ รับประกันเนื้อหาครอบคลุมทุกส่วนโดยขั้นตอนจะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ
- เตรียมเอกสารสำหรับสมรส
- การจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น
- การแจ้งสมรสที่ไทย
1.เตรียมเอกสารสำหรับสมรส
1.1 ไปที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของตัวเราเอง (คู่สมรสชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)
ไปที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเพื่อขอใบรับรองโสดกับทางอำเภอค่ะ โดยการขอใบรับรองโสดที่อำเภอต้องเตรียมเอกสารดังนี้
- บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
- ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา
- พยานที่เป็นข้าราชการ 1-2 คนเป็นพยานลงนามค่ะโดยพยานต้องไปด้วยค่ะ(ขึ้นอยู่กับที่ทางอำเภอนะคะว่าต้องมีพยานข้าราชการกี่คนแต่อย่างน้อยต้องมี1คนค่ะ)
ตัวอย่างใบรับรองโสดที่ได้มาค่ะ
เมื่อเราได้ใบรับรองโสดมาแล้วให้เราเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อนำไปประทับรับรองการแปลนิติกรณ์ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งวัฒนะ คือ
- ใบรับรองโสดที่ได้รับมาจากอำเภอตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษ อ่านการแปลใบรับรองโสดเป็นภาษาอังกฤษแจกฟอร์มฟรี
- ทะเบียนบ้านตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- พาสปอร์ตตัวจริงพร้อมสำเนา
และฉบับแปลภาษาอังกฤษ - สูติบัตรตัวจริงพร้อมสำเนาและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
- เอกสารเปลี่ยนชื่อ นามสกุลตัวตริง พร้อมสำเนา (หากใครเคยเปลี่ยนชื่อนามสกุล)และฉบับแปลภาษาอังกฤษ
**ให้เราขอรับตราประทับรับรองเฉพาะฉบับภาคภาษาอังกฤษที่แปลแล้วก็พอค่ะ ยกเว้นใบรับรองโสดที่ขอตรารับรองทั้งส่วนตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษค่ะ แต่ตอนไปยื่นต้องนำเอกสารต้นฉบับจริงทุกอย่างไปด้วยนะคะเพราะทางกรมการกงสุลต้องการตรวจสอบค่ะว่าเอกสารในมือเรานั้นคือของจริงหรือไม่
ภาพใบรับรองโสดฉบับจริงที่รับตรารับรองนิติกรณ์สีเขียวแดงมาแล้วค่ะ
ภาพตัวอย่างใบรับรองโสดฉบับแปลภาษาอังกฤษที่รับตรารับรองการแปลนิติกรณ์เรียบร้อยแล้วค่ะ
**ให้เราขอรับตราประทับรับรองเฉพาะฉบับภาคภาษาอังกฤษที่แปลแล้วก็พอค่ะ ยกเว้นใบรับรองโสดที่ขอตรารับรองทั้งส่วนตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษค่ะ แต่ตอนไปยื่นต้องนำเอกสารต้นฉบับจริงไปด้วยนะคะเพราะทางกรมการกงสุลต้องการตรวจสอบค่ะว่าเอกสารในมือเรานั้นคือของจริง
**สำหรับการแปลเอกสารสามารถใช้บริการแปลด่วนที่กรมการกงสุลได้เลยค่ะ แปลถูกเป้ะ อย่าเสียเวลาแปลเองหรือจ้างร้านในเนตเลยค่ะหากไม่เก่งภาษาอังกฤษระดับอาจารย์จริงๆ โอคซังใช้บริการร้านในเนตมาแล้ว ผิดแบบผิดยกชุด ตกใจมากๆ เสียดายเงินมากค่ะ ทั้งๆที่แจ้งร้านตั้งแต่แรกเลยว่าต้องนำไปใช้จดทะเบียนแต่งงานและมีแบบฟอร์มของทางกรมการกงสุลอยู่ แต่สุดท้ายต้องมาแก้ใหม่หมดเลย
***การไปกองสัญชาติและนิติกรณ์ แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าๆ ตอนนั้นโอคซังไปประมาณ6:00น. แล้วแจ้งขอรับบริการแบบด่วน เอกสารทุกอย่างเสร็จและรับคืนภายในวันนั้นได้ตอน15:00น.ค่ะค่าบริการใบละ 400บาทค่ะ(ไม่รู้ว่าตอนนี้ขึ้นราคาหรือยังนะคะ)แต่ถ้าขอรับรองเอกสารแบบธรรมดาใช้เวลา3วันถึงจะได้เอกสารคืนราคาใบละ200บาทค่ะ
***สำหรับขั้นตอน1.1ทั้งหมดนี้หากคู่สมรสฝ่ายไทยไม่ว่างจริงๆ หรืออยู่ต่างประเทศสามารถให้ญาติที่ไทยดำเนินเรื่องแทนทุกอย่างแล้วส่งเอกสารทั้งหมดตามไปให้ทีหลังได้ค่ะโดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจส่งไปค่ะโดยต้องติดต่อไปยังกงสุลไทยในญี่ปุ่นจะเป็นสาขาโอซาก้าหรือโตเกียวก็ได้ค่ะเพื่อดำเนินเรื่องส่งใบมอบอำนาจค่ะจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำค่ะ
1.2 ไปสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่น (ดำเนินการที่ประเทศญี่ปุ่น) *ต้องไปทั้งคู่สมรสไทยและญี่ปุ่น
ไปยื่นเรื่องขอ เอกสารคงอินโทโดเคะโยเกน กุบิโชเมโช (ก่อนที่เราจะทำการยื่นเรื่องสมรสที่อำเภอในประเทศญี่ปุ่น เราต้องเดินทางไปสถานกงสุลไทย เพื่อขอเอกสารตัวนี้ก่อนนะคะ โอคซังเองไปที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ค่ะ)
คู่สมรสฝ่ายไทยมี
- เอกสารทั้งหมดที่มีตราประทับรับรองข้างต้นรวมถึงต้นฉบับตัวจริงทั้งหมด
- ใบรับรองโสดสำเนาและต้นฉบับ และฉบับบภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- ทะเบียนบ้านตัวจริง สำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 3×4 เซนติเมตร
เอกสารของคู่สมรสมี
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาเอกสาร
- เอกสารรับรองหน้าที่การงานและรายได้
- ใบทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ฝ่ายคู่สมรส
- รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 3×4เซนติเมตร
สำหรับสถานกงสุลไทย ณ นครโอซากาเมื่อไปถึงขึ้นลิฟต์ไปชั้น4 แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เลยค่ะว่ามาทำเรื่องขออนุญาตสมรสกับชาวญี่ปุ่น ค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ไทยจะให้เอกสารมาให้ทั้งเราและคู่สมรสกรอกเยอะมากมายค่ะ เช่น กรอกประวัติส่วนตัว หน้าที่การงาน เรื่องราวความรักว่าพบกันได้อย่างไร แล้วส่งเรื่องไว้ เจ้าหน้าที่จะนัดคิวเรามาอีกครั้งเพื่อสัมภาษณ์ค่ะ โดย เจ้าหน้าที่จะโทรบอกตามเบอร์ที่เราทิ้งไว้ให้ค่ะ โดยวันที่สัมภาษณ์นัดหลังจากวันยื่นเอกสารประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ (**วันที่สัมภาษณ์ต้องไปทั้งตัวเราและคู่สมรสนะคะ)
2. การจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น
2.1 ยื่นจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่น
ให้ไปตามวันเวลาที่ทางกงสุลโทรมาบอกค่ะ หลังจากผ่านการสัมภาษณ์และรับเอกสารตามวันเวลานัดหมายจากกงสุลไทยแล้ว นำเอกสารขอแต่งงานที่ได้จากกงสุลไทยและโคเซกิโทฮง ไปประทับตรารับรองที่กระทรวงการต่างประเทศประเทศญี่ปุ่น(ไกมุโชว) ค่ะ โอคซังเลือกไปที่โอซากา ไกมุโชวค่ะ ยื่นเอกสารไว้แล้วสามารถมารับได้ในวันรุ่งขึ้นค่ะ พอวันรุ่งขึ้นให้ไปที่ไกมุโชวอีกครั้งเพื่อรับเอกสารของเราที่มีตราประทับรับรองเพิ่มเข้าให้ เมื่อได้เอกสารนี้่แล้วก็ไปยื่นจดทะเบียนสมรสที่อำเภอในญี่ปุ่นได้เลยค่ะ
ไปที่อำเภอที่ใกล้บ้านไปที่เคาเตอร์แล้วถามเจ้าหน้าที่ประจำอำเภอที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะเขาจะให้กรอกคำร้องขอแต่งงานโดยฟอร์มแต่ละที่จะไม่เหมือนกัน
สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับคู่สมรสฝ่ายไทยไปที่อำเภอญี่ปุ่นมี เอกสารทั้งหมดที่มีตราประทับรับรองจากข้อ1รวมถึงต้นฉบับตัวจริงทั้งหมดคือ
- ใบรับรองขอแต่งงานที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทยและไกมุโช1ใบ(ประทับตราอยู่ในใบเดียวกัน)
- ทะเบียนบ้านตัวจริง สำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
- พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
เอกสารของคู่สมรสชาวญี่ปุ่นมี
- พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาเอกสาร
- ใบทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ฝ่ายคู่สมรสที่ได้ตรารับรองจากไกมุโชว
หมายเหตุ ในแต่ละอำเภอจะใช้เอกสารที่แตกต่างกันแนะนำให้โทรไปสอบถามกับทางอำเภอที่เราจะไปจดทะเบียนสมรสก่อนนะคะว่าเขาเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติมบ้าง
ส่วนตัวโอคซังนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นจดทะเบียนสมรส ไม่เกิน1ชม.ก็ทำเรื่องจดทะเบียนสมรสเสร็จเรียบร้อย โดยในใบสมรสชื่อเราจะยังเป็นชื่อเดิมยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลค่ะ โอคซังถามทางเจ้าหน้าที่ว่าประสงค์จะใช้นามสกุลของสามี ทางเจ้าหน้าตอบว่าส่วนนี้เขาไม่สามารถดำเนินให้ได้ เราต้องไปดำเนินเรื่องแจ้งทางไทยให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาแจ้งเปลี่ยนนามสกุลที่อำเภอทีหลังค่ะเพราะกฎหมายไทยกับกฎหมายญี่ปุ่นไม่เหมือนกันค่ะค่อยข้างละเอียดอ่อน
ภาพใบขอสมรส(ใบทะเบียนสมรส)ที่ได้มาค่ะ แต่ละอำเภออาจแตกต่างกันค่ะ ของโอคซังเป็นกระดาษบางๆธรรมดาเลยค่ะแต่มีผลทางกฏหมายนะตัวเอง
เมื่อเราทำการจดทะเบียนแต่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้วทางอำเภอจะออกทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ตัวใหม่มาให้ที่มีชื่อของเราติดอยู่ด้วยโดยต้องรอข้อมูลของเราเข้าระบบ7วันค่ะ ถึงจะไปขอใบทะเบียนครอบครัวอันใหม่ที่มีชื่อเราอยู่ด้วยได้
ใบทะเบียนครอบครัวที่มีชื่อคู่สมรส และชื่อโอคซังเองค่ะ(แต่นามสกุลยังเป็นนามสกุลเดิมนะคะ)
คราวนี้มาดูกระดาษที่ทางกงสุลไทยเคยให้ไว้เรื่องลำดับขั้นตอนต่อไปคือ ต้องทำการขอโทโดเคะจูริโชเมโชเพื่อนำกลับมายืนที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นอีกรอบ แต่!!ในกรณีของโอคซังทางอำเภอไม่มีให้ค่ะ สอบถามไปทางอำเภอก็มีให้เท่าที่ได้มาหลังจากวันที่จดทะเบียน สรุปคือในมือโอคซังมีเอกสาร 2 ตัวคือ
- ใบขอสมรส
- ใบทะเบียนครอบครัวโคเซกิโทฮงที่ไปขอมาหลังจากจดทะเบียนแล้ว7วันที่อำเภอ
2.2 นำเอกสารไปรับรองตราประทับ
นำใบขอสมรส(ใบทะเบียนสมรส)ต้นฉบับ และโคเซกิโทฮงต้นฉบับ ที่เรามีจากด้านบนไปรับตรารับรองที่กระทรวงการต่างประเทศประเทศญี่ปุ่น(ไกมุโชว)อีกครั้ง (สอบถามเพิ่มเติม 06-6941-4700) โดยจะใช้เวลา1วันค่ะ วันรุ่งขึ้น ก็ไปรับเอกสาร แล้วก็ทำการแปลเอกสารที่รับรองแล้วทั้งหมดเป็นภาษาไทยแล้ว ไปสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อยื่นรับรองการแปลค่ะ
ภาพใบขอสมรสที่ได้รับตรารับรองของกงสุลไทยโอซาก้าสีแดงๆด้านซ้ายบน(ใบทะเบียนสมรส)ที่ได้มาค่ะ แต่ละอำเภออาจแตกต่างกันค่ะ (เหมือนข้อ2.1)
**สำหรับการแปลเอกสารเป็นภาษาไทยให้ทำฟอร์มให้เป้ะเหมือนต้นฉบับเลยนะคะ เพราะโอคซังแปลไว้หลายชุดมากๆ มีทั้งแบบที่หาจากในอินเตอร์เนตเหมือนกันแต่ใช้ไม่ได้เลยค่ะ ทางกงสุลไทยบอกมาคะว่าในเนตที่เขาแจกๆกันนั่นคือแบบย่อ มันไม่ตรงกับฟอร์มของเอกสารในมือ เพราะฉะนั้นนะคะ เอกสารของเพื่อนๆที่จดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว แล้วได้มาต้นฉบับเป็นอย่างไร ให้ยึดฟอร์มนั้นแล้วแปลแค่จากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยพอค่ะ ในขั้นตอนนี้โอคซังยื่นเอกสารประสงค์จะเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรสด้วย(ขั้นตอนนี้ถามเจ้าหน้าที่กงสุลได้เลยค่ะ)
แล้วเจ้าหน้าที่จะถามเราค่ะหากมีการแปลผิดพลาดจะมารับด้วยตัวเองเอาไปแก้ หรือให้ส่งทางไปรษณีย์ โอคซังเลือกให้เจ้าหน้าที่ส่งมาทางไปรษณีย์ค่ะ รอๆอยู่ประมาณ 3วันก็มีเอกสารที่ต้องแก้มาค่ะ เจ้าหน้าที่จะเขียนด้วยดินสอกลับมาค่ะว่าต้องแก้คำไหนบ้าง คำไหนที่เราแปลผิด เราก็พิมพ์ใหม่ และส่งไปรษณีย์ทั้งตัวที่เจ้าหน้าที่เขียนๆมาและฉบับใหม่ที่แก้แล้วกลับไปที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นค่ะ เพื่อความสะดวก แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่พักอยู่ใกล้อยู่แล้วไปด้วยตัวเองก็รวดเร็วค่ะ เมื่อเอกสารเรียบร้อยดีแล้วเจ้าหน้าที่จะโทรมาบอกค่ะว่าเอกสารเสร็จแล้วให้ไปรับด้วยตัวเองค่ะ โดยจะให้เราไปรับหรือคู่สมรสไปรับก็ได้ค่ะ
ตัวอย่างการแปลค่ะ ยังคงรักษาฟอร์มของต้นฉบับทุกประการค่ะ ถ้าใครที่ฟอร์มเดียวกับโอคซังพิพม์ตามที่โอคซังพิมพ์ไว้ได้เลยค่ะ
พร้อมทั้งดำเนินเรื่องขอเอกสารเปลี่ยนชื่อสกุลด้วยค่ะ โดยต้องให้สามีเซ็นลายเซ็นยินยอมค่ะ ส่วนตรงรายละเอียดชื่อและที่อยู่เราเขียนแทนสามีได้ค่ะ โดยให้เขียนเป็นภาษาไทยนะคะ เช่นสามีชื่อ 田中ให้เราเขียนว่า ทานากะ ค่ะ
สรุปตอนนี้เราจะได้กระดาษที่สำคัญมาก2ใบคือ 1.หนังสือรับรองการแต่งงานที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น 2.หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่นเช่นกัน
3. การแจ้งสมรสทางฝั่งประเทศไทย (คู่สมรสญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)
เมื่อสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นประทับรับรองการแปล(ตราสีแดงๆ)และเรารับกลับมาแล้ว ให้นำเอกสารที่รับรองการแปลแล้วนั้น(1.หนังสือรับรองการแต่งงานที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น 2.หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น)กลับมารับรองนิติกรณ์ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ แจ้งวัฒนะที่ไทยอีกครั้งค่ะ (ตราสีเขียวๆแดงๆในรูปค่ะ ไปตั้งแต่ตอนเช้าๆเหมือนเดิมค่ะ จะได้เร็วหน่อย)
ประทับตรานี้ตราละ400บาทค่ะใช้บริการแบบด่วนมาก2ใบจ่ายไป800บาทค่ะ
เมื่อได้ตรานิติกรณ์มาเรียบร้อยแล้ว จึงนำเอกสารทั้งหมด ได้แก่
- หนังสือรับรองการแต่งงานฉบับแปลภาษาไทยที่มีตรารับรองจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น และตรานิติกรณ์จากกรมการกงสุลแจ้งวัฒนะ
ภาพตัวอย่างหนังสือรับรองการแต่งงานค่ะ ด้านหลังใบนี้จะมีตราสีเขียวๆแดงๆประทับอยู่ค่ะ
- หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่มีลายเซ็นคู่สมรสเซ็นยินยอมอยู่ และมีตรารับรองจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น และตรานิติกรณ์จากกรมการกงสุลแจ้งวัฒนะ
ภาพตัวอย่างหนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีค่ะ ด้านหลังใบนี้จะมีตราครุฑสีเขียวๆแดงๆติดอยู่ค่ะ
- ทะเบียนบ้านฉบับจริงและสำเนา
- บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา
- สำเนาพาสปอร์ตคู่สมรสพร้อมลายเซ็น
นำทั้งหมดข้างต้นไปยื่น ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเอง(ในส่วนนี้คือการแจ้งว่าเราสมรสแล้วนั่นเอง) แล้วทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรส เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ที่อำเภอที่ไทยเลยค่ะ
ภาพตัวอย่างทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่ทางอำเภอออกให้ค่ะ
ภาพตัวอย่างใบรับรองเปลี่ยนจาก นางสาว เป็น นาง ที่ทางอำเภอออกให้ค่ะ
ภาพตัวอย่างด้านหลังของใบเปลี่ยนจาก นาง เป็น นางสาวค่ะ
ภาพตัวอย่างใบเปลี่ยนชื่อสกุลค่ะ
3 ขั้นตอนทั้งหมดนี้ก็ทำให้การสมรสตามกฎหมายสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นแล้วค่ะหลังจากนี้คนทั้งสองคนก็จะเป็นคนๆเดียวกันแล้ว แต่สำหรับการขอวีซ่านั้นไม่เกี่ยวกับการแต่งงานนะคะ จะเป็นระบบที่แยกกันค่ะ แต่งงานก็ส่วนแต่งงาน การขอวีซ่าก็ส่วนของการขอวีซ่าค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าขั้นตอนการขอวีซ่าติดตามคู่สมรสทำอย่างไรอ่านเลย
ซียูวอะเกน มาตะเน้
COMMENTS
โอคซังคะ อยากสอบถามเพิ่มเติมว่า ตอนไปขอหนังสือรับรองความโสด พยานต้องเป็นข้าราชการเท่านั้นเหรอคะ แล้วถ้าเป็นข้าราชการบำราญได้ไหมคะ
ในกรณีโอคซังเองเจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเป็นพยานได้ค่ะเพราะมีชื่อว่าเป็นข้าราชการคือมีความน่าเชื่อถือค่ะเพราะทางอำเภอต้องการเพิ่มความเข้มงวดป้องกันกรณีบังคับจดทะเบียนแต่งงานอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละอำเภอนั้นๆค่ะว่าจะได้หรือไม่ แนะนำให้โทรสอบถามทางอำเภอตามทะเบียนบ้านของเราจะชัวร์กว่าค่ะ
ขอบคุณนะคะ ตอนนี้กำลังสับสนอยู่ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน คิดว่าจะไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นก่อน แล้วค่อยกลับมาจดที่ไทย กำลังงงกับลำดับขั้นตอนอยู่เลยค่ะ กำลังจะแต่งงานเดือนพฤษภาคมนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ โอคซัง
ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ และยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะบุ๋มซัง ขอให้ขั้นตอนผ่านฉลุยเลยค่ะ จริงๆจดที่ไทยหรือญี่ปุ่นก่อนก็ได้ เรื่องจะยุ่งยากพอกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะจดทะเบียนแต่งงานฝั่งไหนสุดท้ายก็ต้องแจ้งเรื่องทั้งสองฝั่งอยู่ดีค่ะ แล้วมาเป็นสะใภ้เจแปนด้วยกันนะคะ
^^
ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คือแฟนเป็นคนญี่ปุ่น อยู่ที่ญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ แต่เราอยู่ต่างประเทศ ไว้จะลองโทรถามกงสุลดูอีกทีค่ะ ดีใจที่มาเจอบล็อกนี้นะคะ เขียนรายละเอียดไว้ดีมาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ
ขอบคุณนะคะ กว่าจะปรับตัวได้คงต้องใช้เวลาน่าดู ^~^
ถ้าเตรียมเอกสารทั้งหมดไปจากไทยแล้วไปจดมี่เขตที่ญี่ปุ่นได้เลยใช่มั้ยคะ หรือต้องไปที่สถานทูตอีกคะ
เตรียมเอกสารจากไทยครบแล้ว ทำตามหัวข้อที่2เลยค่ะ ต้องไปที่สถานทูตไทยในญี่ปุ่นก่อนไปที่อำเภอค่ะ
初めて、อยากรู้รายละเอียดและอยากจะคุยด้วยมากเลยค่ะ เพราะหนูค่อยข้างจะงงมากเลย เพราะแฟนเป็นลูกครึ่งอ่ะค่ะ แต่เค้าอาศัยอยู่เหมือนเป็นคนญี่ปุ่นเลย อยากรู้ว่าควรทำอะไรยังไงก่อนดีค่ะ มันดูเหมือนจะค่อนข้างยาก
สวัสดีค่ะ はじめまして、เรียกว่าโอคซังได้เลยนะคะเป็นชื่อที่ใช้ในเวปนี้เลยนะ
ตอนนี้คุณมีแพลนกำลังจะจดทะเบียนแต่งงานอยู่หรือคะ คุณเป็นคนไทยหรือคนญี่ปุ่น แล้วแฟนคุณตอนนี้ถือพาสฟอร์ตประเทศไหนอยู่คะ
การจดทะเบียนแต่งงานเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะจดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย(จดทะเบียนแต่งงานที่ไทย) หรือจดทะเบียนภายใต้กฏหมายญี่ปุ่น(จดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่น)
เมื่อเลือกอย่างใดอย่างนึงแล้วต้องทำการแจ้งว่าจดทะเบียนแล้วนะกับอีกฝั่งให้เรียบร้อยด้วยค่ะ
กรณีโอคซังตามขั้นตอนประสบการณ์ที่เขียนในบทความนี้จะเป็นการจดที่เบียนแต่งงานภายใต้กฏหมายญี่ปุ่น(จดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่น) เพราะยึดตามบ้านของแฟนค่ะ แฟนเป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆถือพาสฟอร์ตญี่ปุ่นค่ะ ส่วนโอคซังไทยแท้ๆถือพาสฟอร์ตไทยค่ะ ยังไงถ้าอ่านดูแล้วยังสงสัยตรงไหนลองถามกันเข้ามาได้ค่ะถ้าโอคซังรู้จะช่วยอีกแรงค่ะ
สวัสดีค่ะคุณโอคซัง
ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ มีประโยชน์และเข้าใจง่ายมากค่ะ
ตอนนี้กำลังจะจดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวญี่ปุ่นค่ะ แต่ต่างกับคุณโอคซังที่พอจดทะเบียนแล้ว
ทั้งตัวเนยและแฟนจะย้ายไปทำงานและอาศัยที่ไทยด้วยกันค่ะ เพราะต้องกลับไปดูแลคุณแม่ที่กรุงเทพค่ะ
จึงอยากสอบถามค่ะ ถ้าในกรณีนี้หลังจากจดทะเบียนสมรสเรียบร้อย ควรดำเนินการเรื่องอะไรต่อคะ ขอวีซ่า หรือกลับไทยไปเปลี่ยนชื่อก่อนดีคะ แล้วคุณสามีจะสามารถขอวีซ่าไทยได้ไหมคะ หรือจำเป็นต้องได้งานก่อน
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะคุณเนย
ขอบคุณมากๆค่ะ มีกำลังใจในการเขียนขึ้นเยอะเลยค่ะ
ถ้าให้แนะนำจริงๆเพราะว่าคุณเนยจะต้องย้ายไปที่ไทยดังนั้นหลังจากจดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่นแล้วควรแจ้งว่าจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วและแจ้งเปลี่ยนนามสกุลด้วยที่ไทยก่อนด้วยเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้เอกสารกันให้ยุ่งยากตอนหลังอีกค่ะเพราะจะโยงไปถึงเอกสารส่วนการขอวีซ่า ดังนั้นถ้าจะขอวีซ่าให้แฟนเพื่อไปไทยด้วยกันขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสทั้งสองฝั่งควรสำเร็จเรียบร้อยดีก่อนค่ะ
และตามที่โอคซังทราบมานะคะ สำหรับการขอวีซ่าของแฟนเพื่ออยู่ที่ไทย
-กรณีมีเงินไม่มากและต้องไปอยู่ไทยถ้าเป็นไปได้อยากให้แฟนคุณเนยได้งานที่ไทยเพื่อใช้วีซ่าทำงานในการอยู่อาศัยค่ะแล้วค่อยพยายามสร้างStatement รายได้ในบัญชีให้เยอะๆแล้วค่อยเปลีย่นเป็นซ่าติดตามภรรยาเป็นวีซ่าระยะยาวไปเรื่อยๆค่ะ
-แต่ถ้ากรณีมีเงินมาก การขอวีซ่าติดตามภรรยาอันนี้คุณเนยเองอาจจะต้องมีเงินดองในบัญชีอย่างต่ำ8แสน- 1ล้านบาทค่ะเพื่อใช้ค้ำประกันแฟนค่ะ หรือจะเป็นบัญชีแฟนที่มาเปิดที่ไทยก็ได้ค่ะและเท่าที่ทราบมาการขอวีซ่าของคนญี่ปุ่นเพื่ออาศัยในไทยมีความยุ่งยากมากกว่าทางเราขอไปทางญี่ปุ่นอีกค่ะเพราะทางไทยเชตเรื่องเงินเป็นหลักค่ะ(ในกรณีขอวีซ่าติดตามภรรยานะคะมีกำหนดต้องรายการตัวทุกๆ3เดือนนี่หล่ะค่ะจำไม่ค่อยได้แล้วเพราะฉะนั้นแฟนคุณต้องไปรายงานตัวอย่างสม่ำเสมอค่ะ)เมื่อเข้ามาอยู่ที่ไทยแล้วก็ค่อยหาบริษัทใหญ่ๆสมัครงานได้ค่ะ
ยังไงข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำให้ลองโทรสอบถามทางกงสุลไทยในญี่ปุ่นโดยตรงเลยน่าจะช่วยได้มากขึ้นค่ะ
ไม่รู้ว่าช่วยได้มากขึ้นไหม ยังไงก็สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ
ขอบคุณมากค่ะคุณโอคซัง
สรุปเนยกำลังปรึกษากันกับแฟนอยู่ค่ะว่าจดทะเบียนแล้วจะอยู่ที่ไหน
เพราะหาข้อมูลจากหลายๆที่ รวมถึงอ่านจากคุณโอคซัง อยู่ที่ญี่ปุ่นน่าจะง่ายกว่า
เรื่องเงินเก็บพอจะมีอยู่ แต่แฟนยังหางานที่โอเคที่ไทยไม่ได้ เลยคุยกันว่าอาจจะลำบาก
ถ้าสามีไม่ได้งานดีๆน่าจะอยู่ไทยยาก แล้วเรื่องภาษาก็ยังต้องปรับตัวอีก
ยังไงจะค่อยๆลองคิดดูค่ะ ขอบคุณสำหรับคำปรึกษามากๆเลยนะคะ
ยินดีมากๆค่ะ ขอให้ทุกอย่างผ่านไปได้ด้วยดีนะคะ ^^
สอบถามค่ะโอคซัง ตอนนี้ก็มีแพลนจะแต่งงานกับแฟนญี่ปุ่นละก็วางแพลนว่าจะไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นก่อนค่ะ เลยอยากถามว่าขั้นตอนที่ญี่ปุ่นว่าภรรยาคนไทยจำเป็นต้องไปด้วยหรอคะ ให้สามีญี่ปุ่นไปดำเนินเรื่องคนเดียวได้ไหมคะ เห็นในเว็บสถานทูตบอกว่าสามีคนเดียวก็ได้ แล้วก็เรื่องรับรองเอกสารที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นหลังจากจดทะเบียนค่ะ ว่าเอากลับมารับรองที่ไทยได้ไหมคะ
ขั้นตอนเยอะจนงงมากเลยค่ะ อ่านในเว็บสถานทูตกับของโอคซังก็ไม่เหมือนกันเลย
สวัสดีค่ะ โอคซังแนะนำให้ลองโทรถามทางสงสุลไทยในญี่ปุ่น และทางอำเภอที่เราจะจดทะเบียนเพราะแต่ละอำเภอจะมีความเข้มงวดที่ต่างกันค่ะ
ในกรณีโอคซังนะคะ
-ส่วนของการดำเนินเรื่องที่กงสุลไทยในญี่ปุ่น(โอซาก้า)ตอนนั้นจำได้ค่ะว่าถามทางกงสุลว่าสามีไม่ว่างติดงาน ภรรยาขอไปดำเนินเรื่องคนเดียวได้ไหม ทางกงสุลบอกมาเลยค่ะว่าไม่ได้ค่ะ ต้องมาด้วยกันทั้งสองคนทั้งตัวภรรยาและสามีทั้งขั้นตอนการขอใบคงอินโทโดเคะโยเกน กุบิโชเมโช และวันให้หลัง1สัปดาห์(วันสัมภาษณ์รับเอกสาร) เพราะทางกงสุลต้องการดูค่ะว่าเราคือคู่รักกันจริงๆไม่ได้จ้างแต่งงานอะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งตอนนี้โอคซังไม่แน่ใจนะคะว่ากฏหมายระเบียบการแต่งงานเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนแล้ว ถ้าให้ชัวร์ลองให้สามีโทรถามที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นค่ะ
-“เมื่อได้เอกสารมาแล้วเข้าสู่ขั้นตอนส่วนของการแต่งงานที่อำเภอ” จากที่เคยสอบถามทางอำเภอ(เกียวโต)ทางอำเภอบอกว่า สามีสามารถดำเนินเรื่องคนเดียวได้ค่ะโดยสามีต้องมีพาสปอร์ตตัวจริงของเราไปแสดงที่เคาน์เตอร์ในวันนั้นด้วยแต่ทางอำเภอก็บอกนะคะว่าบางอำเภอมีแค่ตัวสำเนาก็ได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวโอคซังคิดว่าพาสปอร์ตเป็นเอกสารที่สำคัญค่ะไม่ควรส่งไปรษณีย์จึงไปด้วยเลย แนะนำให้โทรถามเจาะจงไปที่อำเภอที่เราจะไปจดทะเบียนโดยตรงเลยค่ะ
-“เรื่องรับรองเอกสารที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นหลังจากจดทะเบียน”อันนี้ต้องนำเอกสารกลับไปรับรองที่ไกมุโชว(1ตราประทับ) แล้วไปรับรองการแปลที่กงสุลไทยในญี่ปุ่น(ครุฑแดง1ตราประทับ)
แล้วจึงค่อยนำกลับไปที่ไทยเพื่อรับตราประทับที่กองสัญชาติและนิติกรณ์แจ้งวัฒนะ(ครุฑแดงเขียว1ตราประทับ)
ตอนแรกเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นบอกโอคซังว่ามีแค่2ตราประทับคือจากไกมุโชว และ กงสุลไทยในญี่ปุ่น(ครุทแดง)ก็เพียงพอแล้วสามารถนำไปขึ้นแจ้งจดทะเบียนที่อำเถอไทยได้เลย แต่วันที่ไปที่อำเภอที่ไทยจริงๆ ทางปลัดกลับบอกว่าที่มีอยู่แล้ว2ตรามีไม่พอจะเอาอีกตราคือตราจาก กองสัญชาติและนิติกรณ์แจ้งวัฒนะ(ครุฑแดงเขียว)ด้วย โอคซังเลยต้องไปเอาตรามาเพิ่มค่ะเสียเวลามากๆตอนนั้นแต่ระเบียบอำเภอจะเอาก็เลยต้องไปเอามาเพิ่มค่ะ
——————————
คำแนะนำ
สำหรับการจดทะเบียนแต่งงานเลือกได้ค่ะว่าจะจดแบบกฏหมายไทยหรือกฎหมายญี่ปุ่น
ถ้าจดแบบกฎหมายญี่ปุ่นก็จดที่ญี่ปุ่นให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปแจ้งที่ไทยว่าฉันจดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่นมาแล้วนะ
ถ้าจดแบบไทยก็จดที่ไทยให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปแจ้งที่ญี่ปุ่นค่ะว่าเราสองคนจดทะเบียนแต่งงานจากไทยกันมาแล้วนะ
จริงๆแล้วมีหลายคู่ที่จดทะเบียนแต่งงานกันเรียบร้อยแล้วที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งแต่ก็ไม่ได้แจ้งไปที่ประเทศอีกฝั่งหนึ่งเยอะเหมือนกันนะคะเพราะคู่สามีภรรยาติดภาระการงานกันเยอะ
แต่ถ้าจดทะเบียนฝั่งเดียวแต่ไม่ได้แจ้งอีกฝั่งประเทศจะยังไม่สามารถขอวีซ่าระยะยาวได้
เพราะฉะนั้นถ้ามีแพลนจดทะเบียนแต่งงานกันอย่างเดียวโดยที่ยังไม่ได้มีแพลนเรื่องของการขอวีซ่าจะจดที่ไทยหรือญี่ปุ่นไปก่อนก็ได้ค่ะเอาที่เราสะดวกที่สุดค่ะ แต่ถ้ามีแพลนว่าจะมีการขอวีซ่าด้วยแนะนำให้จดทะเบียนและแจ้งการจดทะเบียนกับอีกฝั่งประเทศให้เรียบร้อยเลย
ปล. ตอนนั้นโอคซังก็สับสนเหมือนกันค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะไม่ต้องรีบร้อน ช้าๆแต่ชัวร์ค่ะ
ขอบคุณค่ะโอคซัง หมายความว่าถ้าจะเอาแค่จดทะเบียนในญี่ปุ่นอย่างเดียวก่อน ก็ยังไม่ต้องไปยื่นเอกสารทำตราประทับรับรองที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ
ใช่ค่ะถ้าตามที่โอคซังเขียนไว้ของคุณก็จะหยุดอยู่ที่ขั้นตอนที่2.1 นั่นหมายความว่าจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งกลับไปที่ฝั่งไทยเฉยๆค่ะ
ยังไงถ้ามีเวลาค่อยดำเนินการที่เหลือนะคะ^^
ขอบคุณมากค่ะ โอคซัง
สวัสดีค่ะโอคซัง
ขอสอบถามนะคะ เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรส ทางโอคซังใช้เฉพาะภาษาอังกฤษหรอคะ แล้วฉบับภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องใช้หรอคะ ถ้าใช้มีแบบฟอร์มตัวอย่างภาษาญี่ปุ่นไหมคะ
ขอบคุณค่ะ
สวัสดีค่ะกรณีของโอคซังทางอำเภอให้ใช้แค่ภาษาอังกฤษค่ะ แต่ไม่ทราบจริงๆว่าอำเภอของคุณกุ้งนางจะใช้แต่ภาษาอังกฤษเหมือนกันไหมยังไงลองโทรถามทางอำเภอที่จะไปจดเพื่อความแน่ใจก่อนนะคะ ^^
สวัสดีค่ะโอคซัง
กำลังจะจดทะเบียนต้นปีหน้าคะ
รบกวนขอสอบถามเพิ่มเติมดังนี้คะ
1.ระยะเวลา14-15วันเราสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสเสร็จทั้งกระบวนการไหมคะ เนื่องจากแฟนอยู่คาชิฮาระ เดินทางไปโอซาก้าไกลมากและเท่าที่อ่านต้องไปหลายวันเกรงว่าจะหยุดงานไม่ได้คะ
2.การขอเอกสารขอสมรสนั้น สามารถเร่งเวลานัดสัมภาษณ์ได้ไหมคะ กังวลว่าเวลาจะไม่พอสำหรับจดทะเบียนและรอทะเบียนบ้านใหม่่่่่่่่่มากเลยคะ
3.กงสุลไทย กับ ไกวมุโชโอซาก้าไกลกันมากไหมคะถ้าเราสัมภาษณ์เสร็จรับเอกสารแล้วเดินทางไปรับรองที่ไกวมุโชเลยได้ไหมคะ และมีแบบรับเอกสารด่วนไหมคะไม่ต้องรอข้ามวัน เพราะต้องไปอีกวันก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกคะ
รบกวนด้วยนะคะ
ถ้าพูดถึงเฉพาะขั้นตอนจดทะเบียนแต่งงาน
1. ภายใน14-15วันน่าจะทันในส่วนของขั้นตอนจดทะเบียนสมรสฝั่งญี่ปุ่นค่ะโดยต้องเตรียมเอกสารจากทางไทยให้พร้อมไว้ก่อน โดยคุณMayuko จะเสร็จขั้นตอนในข้อที่2.1คือแต่งงานกันในญี่ปุ่นแล้วมีผลทางกฎหมายฝั่งญี่ปุ่น แต่น่าจะไม่ทันขั้นตอนตั้งแต่ข้อ2.2ลงไปค่ะ ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมพร้อมเอกสารยื่นเรื่องแจ้งสมรสที่ไทยเพราะต้องรอใบทะเบียนครอบครัวอัพเดท7วันแจ้งสมรสที่ไทย แต่ขั้นตอนที่2.2 ลงไป ให้ใครทำก็ได้ค่ะจะเป็นคุณMayuko หรือตัวคุณสามีก็ได้ค่ะใครว่างก็เป้นคนทำค่ะ
2. การขอเอกสารสมรสไม่สามารถเร่งเวลาได้่ค่ะ
3.กงสุนไทยกับไกมุโชว์ไม่ห่างกันค่ะ ไกมุโชวอยู่ตรงสถานีtanimachi 4-chome stationค่ะ จำเป็นต้องรอ1วันค่ะ ราคาสแตมป์จำไม่ได้แล้วค่ะ ไม่เกิน2,000เยนค่ะ
ขอให้ทุกอย่างลุล่วงด้วยดีค่ะ
ถ้าจดทะเบียนสมรสที่ไทยแต่ไม่จดที่ญี่ปุ่นจะเป็นอะไรไหมคะ มีผลกระทบอะไรรึป่าว
จดทะเบียนฝั่งไทยหรือฝั่งญี่ปุ่นมีผลทางกฏหมายเหมือนกัน แต่ยังไม่สมบูรณ์ค่ะจะมีสถานะแต่งงานแค่ในไทยค่ะ ยังไม่มีผลทางกฏหมายใดๆกับทางฝั่งญี่ปุ่นค่ะ
แต่ถ้าจดทะเบียนฝั่งไทยแล้วและแจ้งกับทางญี่ปุ่นว่าจดทะเบียนที่ไทยเรียบร้อยแล้วนะ จะมีผลไปถึงทางญี่ปุ่นในเรื่องการขอวีซ่าและสถานะของคู่สมรสของเราค่ะ
ดังนั้นถ้าเราจดทะเบียนฝั่งไทยแล้วและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ไทยจึงไม่มีปัญหาค่ะ^^
สอบถามขั้นตอนที่3 ที่มารับรองการสมรสในไทยค่ะ อยากทราบว่าต้องมีพยานไปด้วยไหมคะ
ในขั้นตอนที่3 ไม่ต้องใช้พยานแล้วค่ะ ถ้าเห็นในใบตัวอย่างที่โอคซังโพสไว้แล้วมีใบนึงที่มีชื่อพยานที่ใบรับรองการเปลี่ยนคำนำหน้าจากนางเป็นนางสาว พยานในนั้นคือเจ้าหน้าที่ในอำเภอค่ะเขาจะจัดการเซ็นกันเองค่ะ เราสามารถไปคนเดียวในขั้นตอนนี้ได้สบายๆค่ะ ^^
นำทั้งหมดข้างต้นไปยื่น ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเอง(ในส่วนนี้คือการแจ้งว่าเราสมรสแล้วนั่นเอง) แล้วทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรส เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ที่อำเภอที่ไทยเลยค่ะ —-> รบกวนสอบถามรายละเอียดตรงนี้นะคะ การขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวต้องไปแจ้งที่อำเภอตามที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือนอกเขตได้ไหมค่ะ เช่นบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ได้เลยไหมค่ะ
ขอโทษนะคะ เมื่อกี้พิมพ์ไม่หมดค่ะ การขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวต้องไปแจ้งที่อำเภอตามที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือนอกเขตได้ไหมค่ะ เช่นบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ที่อำเภอในกรุงเทพ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ได้เลยไหมค่ะ
สวัสดีค่ะ ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ที่อำเภอตามทะเบียนเท่านั้นค่ะ นายอำเภอจะเก็บเอกสารเราเข้าแฟ้มในสำนักงานไว้เลย ส่วนบัตรประชาชนคิดว่าทำที่กรุงเทพได้ค่ะเพราะเรามีใบเปลี่ยนชื่อแล้ว แต่แนะนำว่าให้ทำทีเดียวที่อำเภอที่บ้านเราเลยจะไม่เสียเวลาไปๆมาๆค่ะ
ปล.ตอนโอคซังจด เจ้าหน้าที่กงสุนไทยในญี่ปุ่นกำชับชัดเจนมากค่ะว่าต้องไปอำเภอตามทะเบียนเราเท่านั้นค่ะ
เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทำทุกอย่างเสร็จจะโล่งใจทันที
สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
รบกวนสอบถามอีกเรื่องนะคะ เอกสารมีวันหมดอายุไหมค่ะ เหมือนเคยอ่านเจอเอกสารทะเบียนครอบครัว มีระยะเวลาสามเดือน ต้องยื่นภายในสามเดือนหรือเปล่าค่ะ
เอกสารมีวันหมดอายุค่ะ ทั้งใบรับรองเอกสารการเสียภาษีของสามี ใบรับรองหน้าที่การงาน หรือทะเบียนครอบครัวก็เช่นกันค่ะ ถ้าหมดอายุแล้วต้องไปขอใหม่ค่ะ แต่โอคซังก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า3เดือนหรือปล่าว แต่โดยส่วนใหญ่ 3 เดือนค่ะ
^^
ขอบคุณนะคะ ตอนนี้เอกสารเรียบร้อยแล้วค่ะ ต่อไปเหลือทำวีซ่าค่ะ ฮืออออออออออ
ดีใจด้วยมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ โล่งไปแล้วครึ่งทางค่ะ ^^
สวัสดีค่ะ โอคซัง
ต้องขอโทษที่รบกวนบ่อยๆนะคะ
ขอถามเกี่ยวกับเวลาพาสปอร์ตหมดอายุ สามารถต่อที่ญี่ปุ่นได้เลยไหมค่ะ
ขออถัยที่ตอบช้านะคะ
ทราบมาว่าสามารถต่อที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นได้ค่ะแต่รายละเอียดเรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมไปไม่ทราบค่ะต้องลองโทรถามทางกงสุนไทยในญี่ปุ่นดูนะคะมีที่โอซาก้ากับโตเกียวค่ะ
^^
มีเรื่องรบกวนถามค่ะ
ถ้าเราทำงานต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ไทย ไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นด้วย คือมีเวลาไปๆมาๆเดือนละครั้งสองครั้ง
จะทำยังไงกับตอนที่ต้องไปสัมภาษณ์ที่กงสุล กับตอนยื่นเอกสารที่อำเภอดีคะ เอกสารที่เราแปลจากไทยที่ต้องไปยื่นกงสุล จำเป็นต้องยื่นภายในสามเดือนมั้ยคะ
เพิ่มอีกคำถามนึงค่ะ เอกสารที่เรายื่นที่กงสุล (ทะเบียนบ้าน ใบรับรองโสด และอื่นๆ) เราจะได้คืนมาพร้อมใบขอสมรสเพื่อเอาไปยื่นที่เขตมั้ยคะ หรือจำเป็นต้องมีเอกสารแปลจากไทยไปสองชุด ขอบคุณมากค่ะ
ตอนสัมภาษณ์ที่กงสุนไม่แน่ใจค่ะ ถ้าแฟนอยู่ต่างประเทศเหมือนกันน่าจะจดที่ต่างประเทศเลยได้นะคะเหมือนว่าทำได้ อันนี้ต้องลองโทรสอบถามกับทางกุงสุลไทยและกงสุลญี่ปุ่นในต่างประเทศ ดูค่ะ
-เอกสารที่เราแปลจากไทยไม่มีระบุวันหมดอายุนะคะ ตรารับรองเป็นการรับรองการแปลเฉยๆค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าอายุการใช้งานเหมือนกันจริงๆค่ะถ้าไม่สะดวกดำเนินเรื่องเองสามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้ญาติที่ไทยดำเนินเรื่องให้แทนได้ค่ะจะสะดวกเรามากขึ้น
-ตอนสัมถาษณ์ที่กงสุลบางคนก็โดนสัมบางคนก็ไม่โดน ซึ่งปัจจุบันกฏการแต่งงานเปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ เพื่อนผู้อ่านหลายคนที่มักเข้ามาพูดคุยกันบางคนก็ไม่ได้โดนสัมภาษณ์เลยค่ะโอคซังก็งงๆเหมือนกันค่ะ
-ตอนยื่นเอกสารที่อำเภอถ้าเราไม่สะดวกทำหนังสือมอบอำนาจให้ญาติดำเนินเรื่องแทนได้ค่ะ เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเราเองหลังจากที่จดทะเบียนเสร็จแล้วค่ะ
-เอกสารที่เรายื่นที่กงสุลไทยส่วนของต้นฉบับเจ้าหน้าที่จะไม่เก็บไปค่ะ เขาจะเอาไปแต่ตัวสำเนาและใบรับรองโสดค่ะ
ต้องขอโทษมากๆที่ให้คำตอบได้ไม่ดีที่สุด ยังไงโทรถามทางกงสุลไทยในประเทศที่ทำงานอยู่จะสะดวกที่สุดค่ะและถ้าแฟนอยู่ในประเทศนั้นๆด้วยก็สามารถจดทะเบียนแต่งงานภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆได้ค่ะ แต่ต้องดำเนินเรื่องขออนุญาติกับทางไทยและญี่ปุ่นก่อนซึ่งรายละเอียดตรงนี้โอคซังไม่ทราบจริงๆค่ะ
รบกวนสอบถามครับ
หลังจากที่แปลทะเบียนสมรสเป็นภาษาไทยแล้วให้กงสุลไทยในโอซาก้ารับรองนิติกรณ์(ตราสีแดง)เรียบร้อยแล้ว ทำไมถึงต้องกลับมาขอนิติกรณ์ที่แจ้งวัฒนะซ้ำอีกรอบครับ??
ที่ผมอ่านคู่มือประชาชนของหลายๆสำนักงานเขตระบุไว้ว่า กระทรวงการต่างประเทศหรือสถานทูตหรือสถานกงสุลของไทย สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศนั้น รับรอง
ขอบคุณครับ
ถ้าหมายถึงในขั้นตอนการแจ้งสมรสที่ไทยตอบตรงๆเลยอันนี้ก็ไม่เข้าใจทางอำเภอค่ะ เพราะตอนที่รับมาจากกงสุนไทยในญี่ปุ่นก็บอกว่าสามารถเอาไปยื่นแจ้งจดทะเบียนที่อำเภอไทยที่บ้านได้เลย
แต่พอมาไทย นายอำเภอที่บ้านโอคบอกว่าไม่ได้ค่ะ ต้องไปเอาตราครุฑเขียวแดงมาเพิ่มก็งงมาก เสียเวลาเข้ากรุงเทพอีกรอบเลยค่ะ
อำเภอบ้านโอคซัง อำเภอเมืองราชบุรีค่ะ
สวัสดีคะโอคซัง สอบถามขั้นตอนการเตรียมเอกสารเพื่อที่นำไปประทับตรานิติกรณ์
เอกสารที่ต้องเตรียม:
passportตัวจริง สำเนา และตัวแปลอังกฤษ
คำถามคือ ตัวแปลอังกฤษต้องแปลอย่างไรเพราะหน้าpassport ก็เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คืองงมาก รบกวนโอคซังช่วยอธิบายด้วยคะ, จากว่าที่โอคซังคนต่ไป
ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงในความผิดพลาดอาจจะตาลายตอนพิมพ์ไปหน่อย ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้วนะคะ ต้องขอบคุณมากๆจริงๆค่ะที่ท้วงติงกันมา^^
-ส่วนของใบรับรองโสดที่แปลเป็นอังกฤษแล้วไม่ต้องให้ปลัดเซ็นหรือประทับอะไรแล้วค่ะ ที่ประทับลงใบแปลอังกฤษจะมีแต่ตราเขียวแดงจากกองสัญชาตินิติกรณ์ค่ะ
ปล.ขออภัยที่ตอบช้านะคะ
สวัสดีอีกครั้งค่ะ โอคซัง
จะสอบถามพิ่มเติมจากข้อ3 การแจ้งสมรสทางฝั่งประเทศไทย (คู่สมรสญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)
ถามว่าคู่สมรสญี่ปุ่น ต้องมีใบมอบอำนาจให้เราดำเนินการที่ไทยแทนมั้ยคะหรือว่าไม่จำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจ เราสามารถทำเรื่องเองได้เลย
ตอนนี้ก็งงเหมือนเดิมเพราะในเวฟฯของสถานทูตแจ้งว่าต้องมีใบรับรองจากฝ่ายคู่สมรสญี่ปุ่นด้วย
โปรดชี้แน่ด้วยค่ะ
ขอโทษที่รบกวนอีกครั้ง
ขอบคุณมากๆค่ะ
ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ทำตามที่พี่เขียนบอกแล้วตอนนี้ได้อยู่ญี่ปุ่นแล้วคะ ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ พี่น่ารักใจดีอธิบายเข้าใจง่ายมากๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแต่ซึ้งมากๆค่ะ ขอบพระคุณจากใจจริงค่ะ
ขอบคุณมากๆนะคะซึ้งใจเช่นกันค่ะดีใตที่บทความมีประโยชน์ค่ะ มีอะไรปรึกษาได้เสมอนะคะ
และพี่จะดีใจมากๆฝากกดติดตามช่องยูทูปของพี่ด้วยนะคะ55555 คนตามน้อยจ้อยมาก เศร้าโศกค่ะ
https://www.youtube.com/channel/UCBCGi6FwAoyp3irxoGu0S0w?sub_confirmation=1
-v- ขอบคุณค่ะ