3ขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสกับชาวญี่ปุ่น ที่ญี่ปุ่น

ว่ากันด้วยเรื่องจดทะเบียนแต่งงานกับชาวญี่ปุ่น

เนื่องด้วยมีเพื่อนๆถามเข้ามามากๆว่าผ่านขั้นตอนการแต่งงานภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น และการขอวีซ่าคู่สมรสมาใช้เอกสารอะไรบ้างและมีขั้นตอนอะไรบ้าง เพราะโอคซังได้เอกสารว่องไวเหลือเกิน ดังนั้นวันนี้โอคซังจึงภูมิใจนำเสนอข้อมูลสำคัญสำหรับคนที่กำลังจะจดทะเบียนแต่งงานภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น รวมถึงแจกแบบฟอร์มการแปลเอกสารให้กับเพื่อนๆ รับประกันเนื้อหาครอบคลุมทุกส่วนโดยขั้นตอนจะแบ่งเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆ

  1. เตรียมเอกสารสำหรับสมรส
  2. การจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น
  3. การแจ้งสมรสที่ไทย
โอคซังเพียงแต่นำประสบการณ์การจดทะเบียนที่ตัวเองได้ทำมามาเรียบเรียงแล้วแชร์ให้เป็นความรู้พื้นฐานกับผู้อ่านเท่านั้น ไม่ได้เป็นเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับกงสุลแต่อย่างใด ดังนั้นหากใครที่กำลังจะจดทะเบียนแต่งงานกับชาวญี่ปุ่นในกรณีที่แตกต่างจากโอคซัง โอคซังไม่สามารถให้คำตอบที่ดีที่สุดได้ แนะนำให้โทรสอบถามกับกงสุลไทยในญี่ปุ่นโดยตรงจะดีที่สุด หรือใช้บริการบริษัทเอกชนดำเนินเรื่องจดทะเบียนแต่งงานจะชัวร์กว่าและดีที่สุดค่ะ

1.เตรียมเอกสารสำหรับสมรส

1.1 ไปที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของตัวเราเอง (คู่สมรสชาวญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)

 ไปที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเพื่อขอใบรับรองโสดกับทางอำเภอค่ะ โดยการขอใบรับรองโสดที่อำเภอต้องเตรียมเอกสารดังนี้

  • บัตรประชาชนพร้อมสำเนา
  • ทะเบียนบ้านพร้อมสำเนา
  • พยานที่เป็นข้าราชการ 1-2 คนเป็นพยานลงนามค่ะโดยพยานต้องไปด้วยค่ะ(ขึ้นอยู่กับที่ทางอำเภอนะคะว่าต้องมีพยานข้าราชการกี่คนแต่อย่างน้อยต้องมี1คนค่ะ)

ตัวอย่างใบรับรองโสดที่ได้มาค่ะ

เมื่อเราได้ใบรับรองโสดมาแล้วให้เราเตรียมเอกสารดังต่อไปนี้เพื่อนำไปประทับรับรองการแปลนิติกรณ์ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ กรมการกงสุลกระทรวงการต่างประเทศ แจ้งวัฒนะ คือ

  • ใบรับรองโสดที่ได้รับมาจากอำเภอตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษ อ่านการแปลใบรับรองโสดเป็นภาษาอังกฤษแจกฟอร์มฟรี
  • ทะเบียนบ้านตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
  • พาสปอร์ตตัวจริงพร้อมสำเนาและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
  • สูติบัตรตัวจริงพร้อมสำเนาและฉบับแปลภาษาอังกฤษ
  • เอกสารเปลี่ยนชื่อ นามสกุลตัวตริง พร้อมสำเนา (หากใครเคยเปลี่ยนชื่อนามสกุล)และฉบับแปลภาษาอังกฤษ

**ให้เราขอรับตราประทับรับรองเฉพาะฉบับภาคภาษาอังกฤษที่แปลแล้วก็พอค่ะ ยกเว้นใบรับรองโสดที่ขอตรารับรองทั้งส่วนตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษค่ะ แต่ตอนไปยื่นต้องนำเอกสารต้นฉบับจริงทุกอย่างไปด้วยนะคะเพราะทางกรมการกงสุลต้องการตรวจสอบค่ะว่าเอกสารในมือเรานั้นคือของจริงหรือไม่

ใบรับรองโสด ญี่ปุ่น
ภาพใบรับรองโสดฉบับจริงที่รับตรารับรองนิติกรณ์สีเขียวแดงมาแล้วค่ะ

แปลใบรับรองโสด

ภาพตัวอย่างใบรับรองโสดฉบับแปลภาษาอังกฤษที่รับตรารับรองการแปลนิติกรณ์เรียบร้อยแล้วค่ะ

**ให้เราขอรับตราประทับรับรองเฉพาะฉบับภาคภาษาอังกฤษที่แปลแล้วก็พอค่ะ ยกเว้นใบรับรองโสดที่ขอตรารับรองทั้งส่วนตัวจริงและฉบับแปลภาษาอังกฤษค่ะ แต่ตอนไปยื่นต้องนำเอกสารต้นฉบับจริงไปด้วยนะคะเพราะทางกรมการกงสุลต้องการตรวจสอบค่ะว่าเอกสารในมือเรานั้นคือของจริง

**สำหรับการแปลเอกสารสามารถใช้บริการแปลด่วนที่กรมการกงสุลได้เลยค่ะ แปลถูกเป้ะ อย่าเสียเวลาแปลเองหรือจ้างร้านในเนตเลยค่ะหากไม่เก่งภาษาอังกฤษระดับอาจารย์จริงๆ โอคซังใช้บริการร้านในเนตมาแล้ว ผิดแบบผิดยกชุด ตกใจมากๆ เสียดายเงินมากค่ะ ทั้งๆที่แจ้งร้านตั้งแต่แรกเลยว่าต้องนำไปใช้จดทะเบียนแต่งงานและมีแบบฟอร์มของทางกรมการกงสุลอยู่ แต่สุดท้ายต้องมาแก้ใหม่หมดเลย

***การไปกองสัญชาติและนิติกรณ์ แนะนำให้ไปตั้งแต่เช้าๆ ตอนนั้นโอคซังไปประมาณ6:00น. แล้วแจ้งขอรับบริการแบบด่วน เอกสารทุกอย่างเสร็จและรับคืนภายในวันนั้นได้ตอน15:00น.ค่ะค่าบริการใบละ 400บาทค่ะ(ไม่รู้ว่าตอนนี้ขึ้นราคาหรือยังนะคะ)แต่ถ้าขอรับรองเอกสารแบบธรรมดาใช้เวลา3วันถึงจะได้เอกสารคืนราคาใบละ200บาทค่ะ

***สำหรับขั้นตอน1.1ทั้งหมดนี้หากคู่สมรสฝ่ายไทยไม่ว่างจริงๆ หรืออยู่ต่างประเทศสามารถให้ญาติที่ไทยดำเนินเรื่องแทนทุกอย่างแล้วส่งเอกสารทั้งหมดตามไปให้ทีหลังได้ค่ะโดยต้องมีหนังสือมอบอำนาจส่งไปค่ะโดยต้องติดต่อไปยังกงสุลไทยในญี่ปุ่นจะเป็นสาขาโอซาก้าหรือโตเกียวก็ได้ค่ะเพื่อดำเนินเรื่องส่งใบมอบอำนาจค่ะจะมีเจ้าหน้าที่คอยให้คำแนะนำค่ะ

1.2 ไปสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่น (ดำเนินการที่ประเทศญี่ปุ่น) *ต้องไปทั้งคู่สมรสไทยและญี่ปุ่น

ไปยื่นเรื่องขอ เอกสารคงอินโทโดเคะโยเกน กุบิโชเมโช (ก่อนที่เราจะทำการยื่นเรื่องสมรสที่อำเภอในประเทศญี่ปุ่น เราต้องเดินทางไปสถานกงสุลไทย เพื่อขอเอกสารตัวนี้ก่อนนะคะ โอคซังเองไปที่สถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ค่ะ)

คู่สมรสฝ่ายไทยมี

  •  เอกสารทั้งหมดที่มีตราประทับรับรองข้างต้นรวมถึงต้นฉบับตัวจริงทั้งหมด
  • ใบรับรองโสดสำเนาและต้นฉบับ และฉบับบภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • ทะเบียนบ้านตัวจริง สำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 3×4 เซนติเมตร

เอกสารของคู่สมรสมี

  • พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาเอกสาร
  • เอกสารรับรองหน้าที่การงานและรายได้
  • ใบทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ฝ่ายคู่สมรส
  • รูปถ่ายหน้าตรงขนาด 3×4เซนติเมตร

สำหรับสถานกงสุลไทย ณ นครโอซากาเมื่อไปถึงขึ้นลิฟต์ไปชั้น4 แล้วติดต่อเจ้าหน้าที่ที่เคาน์เตอร์เลยค่ะว่ามาทำเรื่องขออนุญาตสมรสกับชาวญี่ปุ่น ค่ะ ทางเจ้าหน้าที่ไทยจะให้เอกสารมาให้ทั้งเราและคู่สมรสกรอกเยอะมากมายค่ะ เช่น กรอกประวัติส่วนตัว หน้าที่การงาน เรื่องราวความรักว่าพบกันได้อย่างไร แล้วส่งเรื่องไว้ เจ้าหน้าที่จะนัดคิวเรามาอีกครั้งเพื่อสัมภาษณ์ค่ะ โดย เจ้าหน้าที่จะโทรบอกตามเบอร์ที่เราทิ้งไว้ให้ค่ะ โดยวันที่สัมภาษณ์นัดหลังจากวันยื่นเอกสารประมาณ 1 สัปดาห์ค่ะ (**วันที่สัมภาษณ์ต้องไปทั้งตัวเราและคู่สมรสนะคะ)

2. การจดทะเบียนสมรสภายใต้กฎหมายญี่ปุ่น

2.1 ยื่นจดทะเบียนสมรสที่ญี่ปุ่น

ให้ไปตามวันเวลาที่ทางกงสุลโทรมาบอกค่ะ หลังจากผ่านการสัมภาษณ์และรับเอกสารตามวันเวลานัดหมายจากกงสุลไทยแล้ว นำเอกสารขอแต่งงานที่ได้จากกงสุลไทยและโคเซกิโทฮง ไปประทับตรารับรองที่กระทรวงการต่างประเทศประเทศญี่ปุ่น(ไกมุโชว) ค่ะ โอคซังเลือกไปที่โอซากา ไกมุโชวค่ะ ยื่นเอกสารไว้แล้วสามารถมารับได้ในวันรุ่งขึ้นค่ะ พอวันรุ่งขึ้นให้ไปที่ไกมุโชวอีกครั้งเพื่อรับเอกสารของเราที่มีตราประทับรับรองเพิ่มเข้าให้ เมื่อได้เอกสารนี้่แล้วก็ไปยื่นจดทะเบียนสมรสที่อำเภอในญี่ปุ่นได้เลยค่ะ

ไปที่อำเภอที่ใกล้บ้านไปที่เคาเตอร์แล้วถามเจ้าหน้าที่ประจำอำเภอที่ญี่ปุ่นได้เลยค่ะเขาจะให้กรอกคำร้องขอแต่งงานโดยฟอร์มแต่ละที่จะไม่เหมือนกัน

สิ่งที่ต้องเตรียมสำหรับคู่สมรสฝ่ายไทยไปที่อำเภอญี่ปุ่นมี เอกสารทั้งหมดที่มีตราประทับรับรองจากข้อ1รวมถึงต้นฉบับตัวจริงทั้งหมดคือ

  • ใบรับรองขอแต่งงานที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทยและไกมุโช1ใบ(ประทับตราอยู่ในใบเดียวกัน)
  • ทะเบียนบ้านตัวจริง สำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • บัตรประชาชนตัวจริง พร้อมสำเนา และฉบับภาษาอังกฤษที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย
  • พาสปอร์ตตัวจริง พร้อมสำเนาที่ประทับตรารับรองจากนิติกรณ์ไทย

เอกสารของคู่สมรสชาวญี่ปุ่นมี

  • พาสปอร์ตตัวจริงและสำเนาเอกสาร
  • ใบทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ฝ่ายคู่สมรสที่ได้ตรารับรองจากไกมุโชว

หมายเหตุ ในแต่ละอำเภอจะใช้เอกสารที่แตกต่างกันแนะนำให้โทรไปสอบถามกับทางอำเภอที่เราจะไปจดทะเบียนสมรสก่อนนะคะว่าเขาเรียกเอกสารอะไรเพิ่มเติมบ้าง

ส่วนตัวโอคซังนำเอกสารทั้งหมดไปยื่นจดทะเบียนสมรส ไม่เกิน1ชม.ก็ทำเรื่องจดทะเบียนสมรสเสร็จเรียบร้อย โดยในใบสมรสชื่อเราจะยังเป็นชื่อเดิมยังไม่ได้เปลี่ยนนามสกุลค่ะ โอคซังถามทางเจ้าหน้าที่ว่าประสงค์จะใช้นามสกุลของสามี ทางเจ้าหน้าตอบว่าส่วนนี้เขาไม่สามารถดำเนินให้ได้ เราต้องไปดำเนินเรื่องแจ้งทางไทยให้เรียบร้อยแล้วค่อยกลับมาแจ้งเปลี่ยนนามสกุลที่อำเภอทีหลังค่ะเพราะกฎหมายไทยกับกฎหมายญี่ปุ่นไม่เหมือนกันค่ะค่อยข้างละเอียดอ่อน

ใบสมรสญี่ปุ่น

ภาพใบขอสมรส(ใบทะเบียนสมรส)ที่ได้มาค่ะ แต่ละอำเภออาจแตกต่างกันค่ะ ของโอคซังเป็นกระดาษบางๆธรรมดาเลยค่ะแต่มีผลทางกฏหมายนะตัวเอง

เมื่อเราทำการจดทะเบียนแต่งงานเสร็จเรียบร้อยแล้วทางอำเภอจะออกทะเบียนครอบครัว(โคเซกิโทฮง)ตัวใหม่มาให้ที่มีชื่อของเราติดอยู่ด้วยโดยต้องรอข้อมูลของเราเข้าระบบ7วันค่ะ ถึงจะไปขอใบทะเบียนครอบครัวอันใหม่ที่มีชื่อเราอยู่ด้วยได้

ใบทะเบียนครอบครัว ญี่ปุ่น

ใบทะเบียนครอบครัวที่มีชื่อคู่สมรส และชื่อโอคซังเองค่ะ(แต่นามสกุลยังเป็นนามสกุลเดิมนะคะ)

    คราวนี้มาดูกระดาษที่ทางกงสุลไทยเคยให้ไว้เรื่องลำดับขั้นตอนต่อไปคือ ต้องทำการขอโทโดเคะจูริโชเมโชเพื่อนำกลับมายืนที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นอีกรอบ แต่!!ในกรณีของโอคซังทางอำเภอไม่มีให้ค่ะ สอบถามไปทางอำเภอก็มีให้เท่าที่ได้มาหลังจากวันที่จดทะเบียน สรุปคือในมือโอคซังมีเอกสาร 2 ตัวคือ

  • ใบขอสมรส
  • ใบทะเบียนครอบครัวโคเซกิโทฮงที่ไปขอมาหลังจากจดทะเบียนแล้ว7วันที่อำเภอ

2.2 นำเอกสารไปรับรองตราประทับ 

นำใบขอสมรส(ใบทะเบียนสมรส)ต้นฉบับ และโคเซกิโทฮงต้นฉบับ ที่เรามีจากด้านบนไปรับตรารับรองที่กระทรวงการต่างประเทศประเทศญี่ปุ่น(ไกมุโชว)อีกครั้ง (สอบถามเพิ่มเติม 06-6941-4700) โดยจะใช้เวลา1วันค่ะ วันรุ่งขึ้น ก็ไปรับเอกสาร แล้วก็ทำการแปลเอกสารที่รับรองแล้วทั้งหมดเป็นภาษาไทยแล้ว ไปสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นอีกครั้ง เพื่อยื่นรับรองการแปลค่ะ

ใบสมรสญี่ปุ่น

ภาพใบขอสมรสที่ได้รับตรารับรองของกงสุลไทยโอซาก้าสีแดงๆด้านซ้ายบน(ใบทะเบียนสมรส)ที่ได้มาค่ะ แต่ละอำเภออาจแตกต่างกันค่ะ (เหมือนข้อ2.1)

**สำหรับการแปลเอกสารเป็นภาษาไทยให้ทำฟอร์มให้เป้ะเหมือนต้นฉบับเลยนะคะ เพราะโอคซังแปลไว้หลายชุดมากๆ มีทั้งแบบที่หาจากในอินเตอร์เนตเหมือนกันแต่ใช้ไม่ได้เลยค่ะ ทางกงสุลไทยบอกมาคะว่าในเนตที่เขาแจกๆกันนั่นคือแบบย่อ มันไม่ตรงกับฟอร์มของเอกสารในมือ เพราะฉะนั้นนะคะ เอกสารของเพื่อนๆที่จดทะเบียนสมรสเรียบร้อยแล้ว แล้วได้มาต้นฉบับเป็นอย่างไร ให้ยึดฟอร์มนั้นแล้วแปลแค่จากภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาไทยพอค่ะ ในขั้นตอนนี้โอคซังยื่นเอกสารประสงค์จะเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรสด้วย(ขั้นตอนนี้ถามเจ้าหน้าที่กงสุลได้เลยค่ะ)

แล้วเจ้าหน้าที่จะถามเราค่ะหากมีการแปลผิดพลาดจะมารับด้วยตัวเองเอาไปแก้ หรือให้ส่งทางไปรษณีย์ โอคซังเลือกให้เจ้าหน้าที่ส่งมาทางไปรษณีย์ค่ะ รอๆอยู่ประมาณ 3วันก็มีเอกสารที่ต้องแก้มาค่ะ เจ้าหน้าที่จะเขียนด้วยดินสอกลับมาค่ะว่าต้องแก้คำไหนบ้าง คำไหนที่เราแปลผิด เราก็พิมพ์ใหม่ และส่งไปรษณีย์ทั้งตัวที่เจ้าหน้าที่เขียนๆมาและฉบับใหม่ที่แก้แล้วกลับไปที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นค่ะ เพื่อความสะดวก แต่ถ้าเพื่อนๆคนไหนที่พักอยู่ใกล้อยู่แล้วไปด้วยตัวเองก็รวดเร็วค่ะ เมื่อเอกสารเรียบร้อยดีแล้วเจ้าหน้าที่จะโทรมาบอกค่ะว่าเอกสารเสร็จแล้วให้ไปรับด้วยตัวเองค่ะ โดยจะให้เราไปรับหรือคู่สมรสไปรับก็ได้ค่ะ

แปลใบสมรสญี่ปุ่น

ตัวอย่างการแปลค่ะ ยังคงรักษาฟอร์มของต้นฉบับทุกประการค่ะ ถ้าใครที่ฟอร์มเดียวกับโอคซังพิพม์ตามที่โอคซังพิมพ์ไว้ได้เลยค่ะ

พร้อมทั้งดำเนินเรื่องขอเอกสารเปลี่ยนชื่อสกุลด้วยค่ะ โดยต้องให้สามีเซ็นลายเซ็นยินยอมค่ะ ส่วนตรงรายละเอียดชื่อและที่อยู่เราเขียนแทนสามีได้ค่ะ โดยให้เขียนเป็นภาษาไทยนะคะ เช่นสามีชื่อ 田中ให้เราเขียนว่า ทานากะ ค่ะ

จดทะเบียนสมรส ชาวญี่ปุ่น

สรุปตอนนี้เราจะได้กระดาษที่สำคัญมาก2ใบคือ 1.หนังสือรับรองการแต่งงานที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น 2.หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่นเช่นกัน

 3. การแจ้งสมรสทางฝั่งประเทศไทย (คู่สมรสญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)

เมื่อสถานกงสุลไทยในญี่ปุ่นประทับรับรองการแปล(ตราสีแดงๆ)และเรารับกลับมาแล้ว ให้นำเอกสารที่รับรองการแปลแล้วนั้น(1.หนังสือรับรองการแต่งงานที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น 2.หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่ได้รับตรารับรองสีแดงๆจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น)กลับมารับรองนิติกรณ์ที่กองสัญชาติและนิติกรณ์ แจ้งวัฒนะที่ไทยอีกครั้งค่ะ (ตราสีเขียวๆแดงๆในรูปค่ะ ไปตั้งแต่ตอนเช้าๆเหมือนเดิมค่ะ จะได้เร็วหน่อย)

ตรานิติกรณ์ยินยันญี่ปุ่น

ประทับตรานี้ตราละ400บาทค่ะใช้บริการแบบด่วนมาก2ใบจ่ายไป800บาทค่ะ

เมื่อได้ตรานิติกรณ์มาเรียบร้อยแล้ว จึงนำเอกสารทั้งหมด ได้แก่

  • หนังสือรับรองการแต่งงานฉบับแปลภาษาไทยที่มีตรารับรองจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น และตรานิติกรณ์จากกรมการกงสุลแจ้งวัฒนะแปลใบสมรสญี่ปุ่น

ภาพตัวอย่างหนังสือรับรองการแต่งงานค่ะ ด้านหลังใบนี้จะมีตราสีเขียวๆแดงๆประทับอยู่ค่ะ

  • หนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีที่มีลายเซ็นคู่สมรสเซ็นยินยอมอยู่ และมีตรารับรองจากกงสุลไทยในญี่ปุ่น และตรานิติกรณ์จากกรมการกงสุลแจ้งวัฒนะ

จดทะเบียนสมรส ชาวญี่ปุ่น

ภาพตัวอย่างหนังสือตกลงการใช้ชื่อสกุลตามสามีค่ะ ด้านหลังใบนี้จะมีตราครุฑสีเขียวๆแดงๆติดอยู่ค่ะ

  • ทะเบียนบ้านฉบับจริงและสำเนา
  • บัตรประชาชนตัวจริงและสำเนา
  • สำเนาพาสปอร์ตคู่สมรสพร้อมลายเซ็น

นำทั้งหมดข้างต้นไปยื่น ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเอง(ในส่วนนี้คือการแจ้งว่าเราสมรสแล้วนั่นเอง) แล้วทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรส เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ที่อำเภอที่ไทยเลยค่ะ
แปลทะเบียนครอบครังญี่ปุ่น

ภาพตัวอย่างทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่ทางอำเภอออกให้ค่ะ

สมรสญี่ปุ่น

ภาพตัวอย่างใบรับรองเปลี่ยนจาก นางสาว เป็น นาง ที่ทางอำเภอออกให้ค่ะ

รีวิวแต่งงานญี่ปุ่น

ภาพตัวอย่างด้านหลังของใบเปลี่ยนจาก นาง เป็น นางสาวค่ะ

ใบเปลี่ยนชื่อ

ภาพตัวอย่างใบเปลี่ยนชื่อสกุลค่ะ

3 ขั้นตอนทั้งหมดนี้ก็ทำให้การสมรสตามกฎหมายสำเร็จร้อยเปอร์เซ็นแล้วค่ะหลังจากนี้คนทั้งสองคนก็จะเป็นคนๆเดียวกันแล้ว แต่สำหรับการขอวีซ่านั้นไม่เกี่ยวกับการแต่งงานนะคะ จะเป็นระบบที่แยกกันค่ะ แต่งงานก็ส่วนแต่งงาน การขอวีซ่าก็ส่วนของการขอวีซ่าค่ะ ถ้าอยากรู้ว่าขั้นตอนการขอวีซ่าติดตามคู่สมรสทำอย่างไรอ่านเลย

ซียูวอะเกน มาตะเน้

COMMENTS

  1. บุ๋ม พูดว่า:

    โอคซังคะ อยากสอบถามเพิ่มเติมว่า ตอนไปขอหนังสือรับรองความโสด พยานต้องเป็นข้าราชการเท่านั้นเหรอคะ แล้วถ้าเป็นข้าราชการบำราญได้ไหมคะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ในกรณีโอคซังเองเจ้าหน้าที่บอกว่าสามารถเป็นพยานได้ค่ะเพราะมีชื่อว่าเป็นข้าราชการคือมีความน่าเชื่อถือค่ะเพราะทางอำเภอต้องการเพิ่มความเข้มงวดป้องกันกรณีบังคับจดทะเบียนแต่งงานอะไรแบบนี้ค่ะ แต่ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละอำเภอนั้นๆค่ะว่าจะได้หรือไม่ แนะนำให้โทรสอบถามทางอำเภอตามทะเบียนบ้านของเราจะชัวร์กว่าค่ะ

      • บุ๋ม พูดว่า:

        ขอบคุณนะคะ ตอนนี้กำลังสับสนอยู่ ว่าจะเริ่มจากตรงไหนก่อน คิดว่าจะไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นก่อน แล้วค่อยกลับมาจดที่ไทย กำลังงงกับลำดับขั้นตอนอยู่เลยค่ะ กำลังจะแต่งงานเดือนพฤษภาคมนี้ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ โอคซัง

        • okusan okusan พูดว่า:

          ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ และยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันค่ะบุ๋มซัง ขอให้ขั้นตอนผ่านฉลุยเลยค่ะ จริงๆจดที่ไทยหรือญี่ปุ่นก่อนก็ได้ เรื่องจะยุ่งยากพอกันเลยค่ะ ไม่ว่าจะจดทะเบียนแต่งงานฝั่งไหนสุดท้ายก็ต้องแจ้งเรื่องทั้งสองฝั่งอยู่ดีค่ะ แล้วมาเป็นสะใภ้เจแปนด้วยกันนะคะ
          ^^

      • Wora พูดว่า:

        ขอบคุณมากๆเลยค่ะ คือแฟนเป็นคนญี่ปุ่น อยู่ที่ญี่ปุ่นนี่แหละค่ะ แต่เราอยู่ต่างประเทศ ไว้จะลองโทรถามกงสุลดูอีกทีค่ะ ดีใจที่มาเจอบล็อกนี้นะคะ เขียนรายละเอียดไว้ดีมาก ขอบคุณอีกครั้งค่ะ

  2. บุ๋ม พูดว่า:

    ขอบคุณนะคะ กว่าจะปรับตัวได้คงต้องใช้เวลาน่าดู ^~^

  3. BB พูดว่า:

    ถ้าเตรียมเอกสารทั้งหมดไปจากไทยแล้วไปจดมี่เขตที่ญี่ปุ่นได้เลยใช่มั้ยคะ หรือต้องไปที่สถานทูตอีกคะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      เตรียมเอกสารจากไทยครบแล้ว ทำตามหัวข้อที่2เลยค่ะ ต้องไปที่สถานทูตไทยในญี่ปุ่นก่อนไปที่อำเภอค่ะ

  4. ヌムです พูดว่า:

    初めて、อยากรู้รายละเอียดและอยากจะคุยด้วยมากเลยค่ะ เพราะหนูค่อยข้างจะงงมากเลย เพราะแฟนเป็นลูกครึ่งอ่ะค่ะ แต่เค้าอาศัยอยู่เหมือนเป็นคนญี่ปุ่นเลย อยากรู้ว่าควรทำอะไรยังไงก่อนดีค่ะ มันดูเหมือนจะค่อนข้างยาก

    • okusan okusan พูดว่า:

      สวัสดีค่ะ はじめまして、เรียกว่าโอคซังได้เลยนะคะเป็นชื่อที่ใช้ในเวปนี้เลยนะ
      ตอนนี้คุณมีแพลนกำลังจะจดทะเบียนแต่งงานอยู่หรือคะ คุณเป็นคนไทยหรือคนญี่ปุ่น แล้วแฟนคุณตอนนี้ถือพาสฟอร์ตประเทศไหนอยู่คะ
      การจดทะเบียนแต่งงานเราสามารถเลือกได้ค่ะว่าจะจดทะเบียนภายใต้กฎหมายไทย(จดทะเบียนแต่งงานที่ไทย) หรือจดทะเบียนภายใต้กฏหมายญี่ปุ่น(จดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่น)
      เมื่อเลือกอย่างใดอย่างนึงแล้วต้องทำการแจ้งว่าจดทะเบียนแล้วนะกับอีกฝั่งให้เรียบร้อยด้วยค่ะ

      กรณีโอคซังตามขั้นตอนประสบการณ์ที่เขียนในบทความนี้จะเป็นการจดที่เบียนแต่งงานภายใต้กฏหมายญี่ปุ่น(จดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่น) เพราะยึดตามบ้านของแฟนค่ะ แฟนเป็นชาวญี่ปุ่นแท้ๆถือพาสฟอร์ตญี่ปุ่นค่ะ ส่วนโอคซังไทยแท้ๆถือพาสฟอร์ตไทยค่ะ ยังไงถ้าอ่านดูแล้วยังสงสัยตรงไหนลองถามกันเข้ามาได้ค่ะถ้าโอคซังรู้จะช่วยอีกแรงค่ะ

  5. เนย พูดว่า:

    สวัสดีค่ะคุณโอคซัง
    ขอบคุณสำหรับบทความดีๆนะคะ มีประโยชน์และเข้าใจง่ายมากค่ะ
    ตอนนี้กำลังจะจดทะเบียนสมรสกับแฟนชาวญี่ปุ่นค่ะ แต่ต่างกับคุณโอคซังที่พอจดทะเบียนแล้ว
    ทั้งตัวเนยและแฟนจะย้ายไปทำงานและอาศัยที่ไทยด้วยกันค่ะ เพราะต้องกลับไปดูแลคุณแม่ที่กรุงเทพค่ะ

    จึงอยากสอบถามค่ะ ถ้าในกรณีนี้หลังจากจดทะเบียนสมรสเรียบร้อย ควรดำเนินการเรื่องอะไรต่อคะ ขอวีซ่า หรือกลับไทยไปเปลี่ยนชื่อก่อนดีคะ แล้วคุณสามีจะสามารถขอวีซ่าไทยได้ไหมคะ หรือจำเป็นต้องได้งานก่อน

    ขอบคุณค่ะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      สวัสดีค่ะคุณเนย
      ขอบคุณมากๆค่ะ มีกำลังใจในการเขียนขึ้นเยอะเลยค่ะ

      ถ้าให้แนะนำจริงๆเพราะว่าคุณเนยจะต้องย้ายไปที่ไทยดังนั้นหลังจากจดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่นแล้วควรแจ้งว่าจดทะเบียนเรียบร้อยแล้วและแจ้งเปลี่ยนนามสกุลด้วยที่ไทยก่อนด้วยเลยค่ะ จะได้ไม่ต้องมานั่งแก้เอกสารกันให้ยุ่งยากตอนหลังอีกค่ะเพราะจะโยงไปถึงเอกสารส่วนการขอวีซ่า ดังนั้นถ้าจะขอวีซ่าให้แฟนเพื่อไปไทยด้วยกันขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสทั้งสองฝั่งควรสำเร็จเรียบร้อยดีก่อนค่ะ
      และตามที่โอคซังทราบมานะคะ สำหรับการขอวีซ่าของแฟนเพื่ออยู่ที่ไทย

      -กรณีมีเงินไม่มากและต้องไปอยู่ไทยถ้าเป็นไปได้อยากให้แฟนคุณเนยได้งานที่ไทยเพื่อใช้วีซ่าทำงานในการอยู่อาศัยค่ะแล้วค่อยพยายามสร้างStatement รายได้ในบัญชีให้เยอะๆแล้วค่อยเปลีย่นเป็นซ่าติดตามภรรยาเป็นวีซ่าระยะยาวไปเรื่อยๆค่ะ

      -แต่ถ้ากรณีมีเงินมาก การขอวีซ่าติดตามภรรยาอันนี้คุณเนยเองอาจจะต้องมีเงินดองในบัญชีอย่างต่ำ8แสน- 1ล้านบาทค่ะเพื่อใช้ค้ำประกันแฟนค่ะ หรือจะเป็นบัญชีแฟนที่มาเปิดที่ไทยก็ได้ค่ะและเท่าที่ทราบมาการขอวีซ่าของคนญี่ปุ่นเพื่ออาศัยในไทยมีความยุ่งยากมากกว่าทางเราขอไปทางญี่ปุ่นอีกค่ะเพราะทางไทยเชตเรื่องเงินเป็นหลักค่ะ(ในกรณีขอวีซ่าติดตามภรรยานะคะมีกำหนดต้องรายการตัวทุกๆ3เดือนนี่หล่ะค่ะจำไม่ค่อยได้แล้วเพราะฉะนั้นแฟนคุณต้องไปรายงานตัวอย่างสม่ำเสมอค่ะ)เมื่อเข้ามาอยู่ที่ไทยแล้วก็ค่อยหาบริษัทใหญ่ๆสมัครงานได้ค่ะ

      ยังไงข้อมูลเพิ่มเติมแนะนำให้ลองโทรสอบถามทางกงสุลไทยในญี่ปุ่นโดยตรงเลยน่าจะช่วยได้มากขึ้นค่ะ

      ไม่รู้ว่าช่วยได้มากขึ้นไหม ยังไงก็สู้ๆนะคะเป็นกำลังใจให้ค่ะ

      • เนย พูดว่า:

        ขอบคุณมากค่ะคุณโอคซัง
        สรุปเนยกำลังปรึกษากันกับแฟนอยู่ค่ะว่าจดทะเบียนแล้วจะอยู่ที่ไหน
        เพราะหาข้อมูลจากหลายๆที่ รวมถึงอ่านจากคุณโอคซัง อยู่ที่ญี่ปุ่นน่าจะง่ายกว่า
        เรื่องเงินเก็บพอจะมีอยู่ แต่แฟนยังหางานที่โอเคที่ไทยไม่ได้ เลยคุยกันว่าอาจจะลำบาก
        ถ้าสามีไม่ได้งานดีๆน่าจะอยู่ไทยยาก แล้วเรื่องภาษาก็ยังต้องปรับตัวอีก
        ยังไงจะค่อยๆลองคิดดูค่ะ ขอบคุณสำหรับคำปรึกษามากๆเลยนะคะ

  6. Ldyj2112 พูดว่า:

    สอบถามค่ะโอคซัง ตอนนี้ก็มีแพลนจะแต่งงานกับแฟนญี่ปุ่นละก็วางแพลนว่าจะไปจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นก่อนค่ะ เลยอยากถามว่าขั้นตอนที่ญี่ปุ่นว่าภรรยาคนไทยจำเป็นต้องไปด้วยหรอคะ ให้สามีญี่ปุ่นไปดำเนินเรื่องคนเดียวได้ไหมคะ เห็นในเว็บสถานทูตบอกว่าสามีคนเดียวก็ได้ แล้วก็เรื่องรับรองเอกสารที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นหลังจากจดทะเบียนค่ะ ว่าเอากลับมารับรองที่ไทยได้ไหมคะ
    ขั้นตอนเยอะจนงงมากเลยค่ะ อ่านในเว็บสถานทูตกับของโอคซังก็ไม่เหมือนกันเลย

    • okusan okusan พูดว่า:

      สวัสดีค่ะ โอคซังแนะนำให้ลองโทรถามทางสงสุลไทยในญี่ปุ่น และทางอำเภอที่เราจะจดทะเบียนเพราะแต่ละอำเภอจะมีความเข้มงวดที่ต่างกันค่ะ
      ในกรณีโอคซังนะคะ
      -ส่วนของการดำเนินเรื่องที่กงสุลไทยในญี่ปุ่น(โอซาก้า)ตอนนั้นจำได้ค่ะว่าถามทางกงสุลว่าสามีไม่ว่างติดงาน ภรรยาขอไปดำเนินเรื่องคนเดียวได้ไหม ทางกงสุลบอกมาเลยค่ะว่าไม่ได้ค่ะ ต้องมาด้วยกันทั้งสองคนทั้งตัวภรรยาและสามีทั้งขั้นตอนการขอใบคงอินโทโดเคะโยเกน กุบิโชเมโช และวันให้หลัง1สัปดาห์(วันสัมภาษณ์รับเอกสาร) เพราะทางกงสุลต้องการดูค่ะว่าเราคือคู่รักกันจริงๆไม่ได้จ้างแต่งงานอะไรประมาณนี้ค่ะ ซึ่งตอนนี้โอคซังไม่แน่ใจนะคะว่ากฏหมายระเบียบการแต่งงานเปลี่ยนแปลงไปถึงไหนแล้ว ถ้าให้ชัวร์ลองให้สามีโทรถามที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นค่ะ
      -“เมื่อได้เอกสารมาแล้วเข้าสู่ขั้นตอนส่วนของการแต่งงานที่อำเภอ” จากที่เคยสอบถามทางอำเภอ(เกียวโต)ทางอำเภอบอกว่า สามีสามารถดำเนินเรื่องคนเดียวได้ค่ะโดยสามีต้องมีพาสปอร์ตตัวจริงของเราไปแสดงที่เคาน์เตอร์ในวันนั้นด้วยแต่ทางอำเภอก็บอกนะคะว่าบางอำเภอมีแค่ตัวสำเนาก็ได้เหมือนกัน ซึ่งส่วนตัวโอคซังคิดว่าพาสปอร์ตเป็นเอกสารที่สำคัญค่ะไม่ควรส่งไปรษณีย์จึงไปด้วยเลย แนะนำให้โทรถามเจาะจงไปที่อำเภอที่เราจะไปจดทะเบียนโดยตรงเลยค่ะ

      -“เรื่องรับรองเอกสารที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นหลังจากจดทะเบียน”อันนี้ต้องนำเอกสารกลับไปรับรองที่ไกมุโชว(1ตราประทับ) แล้วไปรับรองการแปลที่กงสุลไทยในญี่ปุ่น(ครุฑแดง1ตราประทับ)
      แล้วจึงค่อยนำกลับไปที่ไทยเพื่อรับตราประทับที่กองสัญชาติและนิติกรณ์แจ้งวัฒนะ(ครุฑแดงเขียว1ตราประทับ)
      ตอนแรกเจ้าหน้าที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นบอกโอคซังว่ามีแค่2ตราประทับคือจากไกมุโชว และ กงสุลไทยในญี่ปุ่น(ครุทแดง)ก็เพียงพอแล้วสามารถนำไปขึ้นแจ้งจดทะเบียนที่อำเถอไทยได้เลย แต่วันที่ไปที่อำเภอที่ไทยจริงๆ ทางปลัดกลับบอกว่าที่มีอยู่แล้ว2ตรามีไม่พอจะเอาอีกตราคือตราจาก กองสัญชาติและนิติกรณ์แจ้งวัฒนะ(ครุฑแดงเขียว)ด้วย โอคซังเลยต้องไปเอาตรามาเพิ่มค่ะเสียเวลามากๆตอนนั้นแต่ระเบียบอำเภอจะเอาก็เลยต้องไปเอามาเพิ่มค่ะ
      ——————————
      คำแนะนำ

      สำหรับการจดทะเบียนแต่งงานเลือกได้ค่ะว่าจะจดแบบกฏหมายไทยหรือกฎหมายญี่ปุ่น
      ถ้าจดแบบกฎหมายญี่ปุ่นก็จดที่ญี่ปุ่นให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปแจ้งที่ไทยว่าฉันจดทะเบียนแต่งงานที่ญี่ปุ่นมาแล้วนะ
      ถ้าจดแบบไทยก็จดที่ไทยให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปแจ้งที่ญี่ปุ่นค่ะว่าเราสองคนจดทะเบียนแต่งงานจากไทยกันมาแล้วนะ
      จริงๆแล้วมีหลายคู่ที่จดทะเบียนแต่งงานกันเรียบร้อยแล้วที่ฝั่งใดฝั่งหนึ่งแต่ก็ไม่ได้แจ้งไปที่ประเทศอีกฝั่งหนึ่งเยอะเหมือนกันนะคะเพราะคู่สามีภรรยาติดภาระการงานกันเยอะ
      แต่ถ้าจดทะเบียนฝั่งเดียวแต่ไม่ได้แจ้งอีกฝั่งประเทศจะยังไม่สามารถขอวีซ่าระยะยาวได้
      เพราะฉะนั้นถ้ามีแพลนจดทะเบียนแต่งงานกันอย่างเดียวโดยที่ยังไม่ได้มีแพลนเรื่องของการขอวีซ่าจะจดที่ไทยหรือญี่ปุ่นไปก่อนก็ได้ค่ะเอาที่เราสะดวกที่สุดค่ะ แต่ถ้ามีแพลนว่าจะมีการขอวีซ่าด้วยแนะนำให้จดทะเบียนและแจ้งการจดทะเบียนกับอีกฝั่งประเทศให้เรียบร้อยเลย

      ปล. ตอนนั้นโอคซังก็สับสนเหมือนกันค่ะ ค่อยๆเป็นค่อยๆไปนะคะไม่ต้องรีบร้อน ช้าๆแต่ชัวร์ค่ะ

      • ldyj2112 พูดว่า:

        ขอบคุณค่ะโอคซัง หมายความว่าถ้าจะเอาแค่จดทะเบียนในญี่ปุ่นอย่างเดียวก่อน ก็ยังไม่ต้องไปยื่นเอกสารทำตราประทับรับรองที่กงศุลไทยในญี่ปุ่นใช่ไหมคะ ขอบคุณมากนะคะ

        • okusan okusan พูดว่า:

          ใช่ค่ะถ้าตามที่โอคซังเขียนไว้ของคุณก็จะหยุดอยู่ที่ขั้นตอนที่2.1 นั่นหมายความว่าจดทะเบียนที่ญี่ปุ่นเรียบร้อยแล้วแต่ยังไม่ได้แจ้งกลับไปที่ฝั่งไทยเฉยๆค่ะ
          ยังไงถ้ามีเวลาค่อยดำเนินการที่เหลือนะคะ^^

  7. กุ้งนาง พูดว่า:

    สวัสดีค่ะโอคซัง
    ขอสอบถามนะคะ เอกสารที่ใช้ในการจดทะเบียนสมรส ทางโอคซังใช้เฉพาะภาษาอังกฤษหรอคะ แล้วฉบับภาษาญี่ปุ่นไม่ต้องใช้หรอคะ ถ้าใช้มีแบบฟอร์มตัวอย่างภาษาญี่ปุ่นไหมคะ
    ขอบคุณค่ะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      สวัสดีค่ะกรณีของโอคซังทางอำเภอให้ใช้แค่ภาษาอังกฤษค่ะ แต่ไม่ทราบจริงๆว่าอำเภอของคุณกุ้งนางจะใช้แต่ภาษาอังกฤษเหมือนกันไหมยังไงลองโทรถามทางอำเภอที่จะไปจดเพื่อความแน่ใจก่อนนะคะ ^^

  8. Mayuko พูดว่า:

    สวัสดีค่ะโอคซัง
    กำลังจะจดทะเบียนต้นปีหน้าคะ
    รบกวนขอสอบถามเพิ่มเติมดังนี้คะ
    1.ระยะเวลา14-15วันเราสามารถดำเนินการจดทะเบียนสมรสเสร็จทั้งกระบวนการไหมคะ เนื่องจากแฟนอยู่คาชิฮาระ เดินทางไปโอซาก้าไกลมากและเท่าที่อ่านต้องไปหลายวันเกรงว่าจะหยุดงานไม่ได้คะ
    2.การขอเอกสารขอสมรสนั้น สามารถเร่งเวลานัดสัมภาษณ์ได้ไหมคะ กังวลว่าเวลาจะไม่พอสำหรับจดทะเบียนและรอทะเบียนบ้านใหม่่่่่่่่่มากเลยคะ
    3.กงสุลไทย กับ ไกวมุโชโอซาก้าไกลกันมากไหมคะถ้าเราสัมภาษณ์เสร็จรับเอกสารแล้วเดินทางไปรับรองที่ไกวมุโชเลยได้ไหมคะ และมีแบบรับเอกสารด่วนไหมคะไม่ต้องรอข้ามวัน เพราะต้องไปอีกวันก็ต้องเสียค่าใช้จ่ายอีกคะ
    รบกวนด้วยนะคะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ถ้าพูดถึงเฉพาะขั้นตอนจดทะเบียนแต่งงาน
      1. ภายใน14-15วันน่าจะทันในส่วนของขั้นตอนจดทะเบียนสมรสฝั่งญี่ปุ่นค่ะโดยต้องเตรียมเอกสารจากทางไทยให้พร้อมไว้ก่อน โดยคุณMayuko จะเสร็จขั้นตอนในข้อที่2.1คือแต่งงานกันในญี่ปุ่นแล้วมีผลทางกฎหมายฝั่งญี่ปุ่น แต่น่าจะไม่ทันขั้นตอนตั้งแต่ข้อ2.2ลงไปค่ะ ที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมพร้อมเอกสารยื่นเรื่องแจ้งสมรสที่ไทยเพราะต้องรอใบทะเบียนครอบครัวอัพเดท7วันแจ้งสมรสที่ไทย แต่ขั้นตอนที่2.2 ลงไป ให้ใครทำก็ได้ค่ะจะเป็นคุณMayuko หรือตัวคุณสามีก็ได้ค่ะใครว่างก็เป้นคนทำค่ะ
      2. การขอเอกสารสมรสไม่สามารถเร่งเวลาได้่ค่ะ
      3.กงสุนไทยกับไกมุโชว์ไม่ห่างกันค่ะ ไกมุโชวอยู่ตรงสถานีtanimachi 4-chome stationค่ะ จำเป็นต้องรอ1วันค่ะ ราคาสแตมป์จำไม่ได้แล้วค่ะ ไม่เกิน2,000เยนค่ะ

      ขอให้ทุกอย่างลุล่วงด้วยดีค่ะ

      • ชนบท พูดว่า:

        ถ้าจดทะเบียนสมรสที่ไทยแต่ไม่จดที่ญี่ปุ่นจะเป็นอะไรไหมคะ มีผลกระทบอะไรรึป่าว

        • okusan okusan พูดว่า:

          จดทะเบียนฝั่งไทยหรือฝั่งญี่ปุ่นมีผลทางกฏหมายเหมือนกัน แต่ยังไม่สมบูรณ์ค่ะจะมีสถานะแต่งงานแค่ในไทยค่ะ ยังไม่มีผลทางกฏหมายใดๆกับทางฝั่งญี่ปุ่นค่ะ
          แต่ถ้าจดทะเบียนฝั่งไทยแล้วและแจ้งกับทางญี่ปุ่นว่าจดทะเบียนที่ไทยเรียบร้อยแล้วนะ จะมีผลไปถึงทางญี่ปุ่นในเรื่องการขอวีซ่าและสถานะของคู่สมรสของเราค่ะ
          ดังนั้นถ้าเราจดทะเบียนฝั่งไทยแล้วและใช้ชีวิตส่วนใหญ่อยู่ที่ไทยจึงไม่มีปัญหาค่ะ^^

  9. Yoko พูดว่า:

    สอบถามขั้นตอนที่3 ที่มารับรองการสมรสในไทยค่ะ อยากทราบว่าต้องมีพยานไปด้วยไหมคะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ในขั้นตอนที่3 ไม่ต้องใช้พยานแล้วค่ะ ถ้าเห็นในใบตัวอย่างที่โอคซังโพสไว้แล้วมีใบนึงที่มีชื่อพยานที่ใบรับรองการเปลี่ยนคำนำหน้าจากนางเป็นนางสาว พยานในนั้นคือเจ้าหน้าที่ในอำเภอค่ะเขาจะจัดการเซ็นกันเองค่ะ เราสามารถไปคนเดียวในขั้นตอนนี้ได้สบายๆค่ะ ^^

  10. แอนนา พูดว่า:

    นำทั้งหมดข้างต้นไปยื่น ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวที่อำเภอตามทะเบียนบ้านของเราเอง(ในส่วนนี้คือการแจ้งว่าเราสมรสแล้วนั่นเอง) แล้วทำเรื่องแจ้งเปลี่ยนนามสกุลตามคู่สมรส เปลี่ยนคำนำหน้า เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ที่อำเภอที่ไทยเลยค่ะ —-> รบกวนสอบถามรายละเอียดตรงนี้นะคะ การขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวต้องไปแจ้งที่อำเภอตามที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือนอกเขตได้ไหมค่ะ เช่นบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ได้เลยไหมค่ะ

    • แอนนา พูดว่า:

      ขอโทษนะคะ เมื่อกี้พิมพ์ไม่หมดค่ะ การขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวต้องไปแจ้งที่อำเภอตามที่เรามีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านหรือนอกเขตได้ไหมค่ะ เช่นบ้านอยู่ต่างจังหวัดแต่ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ที่อำเภอในกรุงเทพ พร้อมกับแจ้งทำบัตรประชาชนใหม่ได้เลยไหมค่ะ

      • okusan okusan พูดว่า:

        สวัสดีค่ะ ขอจดทะเบียนฐานะแห่งครอบครัวและ เปลี่ยนชื่อเราในทะเบียนบ้านเป็นชื่อที่มีนามสกลุใหม่ที่อำเภอตามทะเบียนเท่านั้นค่ะ นายอำเภอจะเก็บเอกสารเราเข้าแฟ้มในสำนักงานไว้เลย ส่วนบัตรประชาชนคิดว่าทำที่กรุงเทพได้ค่ะเพราะเรามีใบเปลี่ยนชื่อแล้ว แต่แนะนำว่าให้ทำทีเดียวที่อำเภอที่บ้านเราเลยจะไม่เสียเวลาไปๆมาๆค่ะ
        ปล.ตอนโอคซังจด เจ้าหน้าที่กงสุนไทยในญี่ปุ่นกำชับชัดเจนมากค่ะว่าต้องไปอำเภอตามทะเบียนเราเท่านั้นค่ะ
        เป็นกำลังใจให้ค่ะ ทำทุกอย่างเสร็จจะโล่งใจทันที

        • แอนนา พูดว่า:

          สวัสดีค่ะ ขอบคุณมากค่ะ
          รบกวนสอบถามอีกเรื่องนะคะ เอกสารมีวันหมดอายุไหมค่ะ เหมือนเคยอ่านเจอเอกสารทะเบียนครอบครัว มีระยะเวลาสามเดือน ต้องยื่นภายในสามเดือนหรือเปล่าค่ะ

          • okusan okusan พูดว่า:

            เอกสารมีวันหมดอายุค่ะ ทั้งใบรับรองเอกสารการเสียภาษีของสามี ใบรับรองหน้าที่การงาน หรือทะเบียนครอบครัวก็เช่นกันค่ะ ถ้าหมดอายุแล้วต้องไปขอใหม่ค่ะ แต่โอคซังก็ไม่แน่ใจเหมือนกันว่า3เดือนหรือปล่าว แต่โดยส่วนใหญ่ 3 เดือนค่ะ
            ^^

          • แอนนา พูดว่า:

            ขอบคุณนะคะ ตอนนี้เอกสารเรียบร้อยแล้วค่ะ ต่อไปเหลือทำวีซ่าค่ะ ฮืออออออออออ

          • okusan okusan พูดว่า:

            ดีใจด้วยมากๆๆๆๆๆๆๆค่ะ โล่งไปแล้วครึ่งทางค่ะ ^^

  11. แอนนา พูดว่า:

    สวัสดีค่ะ โอคซัง
    ต้องขอโทษที่รบกวนบ่อยๆนะคะ
    ขอถามเกี่ยวกับเวลาพาสปอร์ตหมดอายุ สามารถต่อที่ญี่ปุ่นได้เลยไหมค่ะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ขออถัยที่ตอบช้านะคะ
      ทราบมาว่าสามารถต่อที่กงสุลไทยในญี่ปุ่นได้ค่ะแต่รายละเอียดเรื่องเอกสารที่ต้องเตรียมไปไม่ทราบค่ะต้องลองโทรถามทางกงสุนไทยในญี่ปุ่นดูนะคะมีที่โอซาก้ากับโตเกียวค่ะ
      ^^

  12. Wora พูดว่า:

    มีเรื่องรบกวนถามค่ะ

    ถ้าเราทำงานต่างประเทศ ไม่ได้อยู่ไทย ไม่ได้อยู่ญี่ปุ่นด้วย คือมีเวลาไปๆมาๆเดือนละครั้งสองครั้ง
    จะทำยังไงกับตอนที่ต้องไปสัมภาษณ์ที่กงสุล กับตอนยื่นเอกสารที่อำเภอดีคะ เอกสารที่เราแปลจากไทยที่ต้องไปยื่นกงสุล จำเป็นต้องยื่นภายในสามเดือนมั้ยคะ

    • Wora พูดว่า:

      เพิ่มอีกคำถามนึงค่ะ เอกสารที่เรายื่นที่กงสุล (ทะเบียนบ้าน ใบรับรองโสด และอื่นๆ) เราจะได้คืนมาพร้อมใบขอสมรสเพื่อเอาไปยื่นที่เขตมั้ยคะ หรือจำเป็นต้องมีเอกสารแปลจากไทยไปสองชุด ขอบคุณมากค่ะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ตอนสัมภาษณ์ที่กงสุนไม่แน่ใจค่ะ ถ้าแฟนอยู่ต่างประเทศเหมือนกันน่าจะจดที่ต่างประเทศเลยได้นะคะเหมือนว่าทำได้ อันนี้ต้องลองโทรสอบถามกับทางกุงสุลไทยและกงสุลญี่ปุ่นในต่างประเทศ ดูค่ะ
      -เอกสารที่เราแปลจากไทยไม่มีระบุวันหมดอายุนะคะ ตรารับรองเป็นการรับรองการแปลเฉยๆค่ะ ซึ่งไม่แน่ใจว่าอายุการใช้งานเหมือนกันจริงๆค่ะถ้าไม่สะดวกดำเนินเรื่องเองสามารถทำหนังสือมอบอำนาจให้ญาติที่ไทยดำเนินเรื่องให้แทนได้ค่ะจะสะดวกเรามากขึ้น
      -ตอนสัมถาษณ์ที่กงสุลบางคนก็โดนสัมบางคนก็ไม่โดน ซึ่งปัจจุบันกฏการแต่งงานเปลี่ยนไปเยอะมากค่ะ เพื่อนผู้อ่านหลายคนที่มักเข้ามาพูดคุยกันบางคนก็ไม่ได้โดนสัมภาษณ์เลยค่ะโอคซังก็งงๆเหมือนกันค่ะ
      -ตอนยื่นเอกสารที่อำเภอถ้าเราไม่สะดวกทำหนังสือมอบอำนาจให้ญาติดำเนินเรื่องแทนได้ค่ะ เจ้าหน้าที่จะให้คำแนะนำเราเองหลังจากที่จดทะเบียนเสร็จแล้วค่ะ

      -เอกสารที่เรายื่นที่กงสุลไทยส่วนของต้นฉบับเจ้าหน้าที่จะไม่เก็บไปค่ะ เขาจะเอาไปแต่ตัวสำเนาและใบรับรองโสดค่ะ

      ต้องขอโทษมากๆที่ให้คำตอบได้ไม่ดีที่สุด ยังไงโทรถามทางกงสุลไทยในประเทศที่ทำงานอยู่จะสะดวกที่สุดค่ะและถ้าแฟนอยู่ในประเทศนั้นๆด้วยก็สามารถจดทะเบียนแต่งงานภายใต้กฎหมายของประเทศนั้นๆได้ค่ะ แต่ต้องดำเนินเรื่องขออนุญาติกับทางไทยและญี่ปุ่นก่อนซึ่งรายละเอียดตรงนี้โอคซังไม่ทราบจริงๆค่ะ

  13. KK42 พูดว่า:

    รบกวนสอบถามครับ
    หลังจากที่แปลทะเบียนสมรสเป็นภาษาไทยแล้วให้กงสุลไทยในโอซาก้ารับรองนิติกรณ์(ตราสีแดง)เรียบร้อยแล้ว ทำไมถึงต้องกลับมาขอนิติกรณ์ที่แจ้งวัฒนะซ้ำอีกรอบครับ??
    ที่ผมอ่านคู่มือประชาชนของหลายๆสำนักงานเขตระบุไว้ว่า กระทรวงการต่างประเทศหรือสถานทูตหรือสถานกงสุลของไทย สถานทูตหรือสถานกงสุลของประเทศนั้น รับรอง

    ขอบคุณครับ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ถ้าหมายถึงในขั้นตอนการแจ้งสมรสที่ไทยตอบตรงๆเลยอันนี้ก็ไม่เข้าใจทางอำเภอค่ะ เพราะตอนที่รับมาจากกงสุนไทยในญี่ปุ่นก็บอกว่าสามารถเอาไปยื่นแจ้งจดทะเบียนที่อำเภอไทยที่บ้านได้เลย
      แต่พอมาไทย นายอำเภอที่บ้านโอคบอกว่าไม่ได้ค่ะ ต้องไปเอาตราครุฑเขียวแดงมาเพิ่มก็งงมาก เสียเวลาเข้ากรุงเทพอีกรอบเลยค่ะ

      อำเภอบ้านโอคซัง อำเภอเมืองราชบุรีค่ะ

    • ระพี พูดว่า:

      สวัสดีคะโอคซัง สอบถามขั้นตอนการเตรียมเอกสารเพื่อที่นำไปประทับตรานิติกรณ์

      เอกสารที่ต้องเตรียม:
      passportตัวจริง สำเนา และตัวแปลอังกฤษ

      คำถามคือ ตัวแปลอังกฤษต้องแปลอย่างไรเพราะหน้าpassport ก็เป็นภาษาอังกฤษอยู่แล้ว คืองงมาก รบกวนโอคซังช่วยอธิบายด้วยคะ, จากว่าที่โอคซังคนต่ไป

      • okusan okusan พูดว่า:

        ต้องขออภัยเป็นอย่างสูงในความผิดพลาดอาจจะตาลายตอนพิมพ์ไปหน่อย ตอนนี้แก้ไขเรียบร้อยแล้วนะคะ ต้องขอบคุณมากๆจริงๆค่ะที่ท้วงติงกันมา^^
        -ส่วนของใบรับรองโสดที่แปลเป็นอังกฤษแล้วไม่ต้องให้ปลัดเซ็นหรือประทับอะไรแล้วค่ะ ที่ประทับลงใบแปลอังกฤษจะมีแต่ตราเขียวแดงจากกองสัญชาตินิติกรณ์ค่ะ

        ปล.ขออภัยที่ตอบช้านะคะ

        • ระพี พูดว่า:

          สวัสดีอีกครั้งค่ะ โอคซัง
          จะสอบถามพิ่มเติมจากข้อ3 การแจ้งสมรสทางฝั่งประเทศไทย (คู่สมรสญี่ปุ่นไม่จำเป็นต้องมา)

          ถามว่าคู่สมรสญี่ปุ่น ต้องมีใบมอบอำนาจให้เราดำเนินการที่ไทยแทนมั้ยคะหรือว่าไม่จำเป็นต้องมีใบมอบอำนาจ เราสามารถทำเรื่องเองได้เลย

          ตอนนี้ก็งงเหมือนเดิมเพราะในเวฟฯของสถานทูตแจ้งว่าต้องมีใบรับรองจากฝ่ายคู่สมรสญี่ปุ่นด้วย

          โปรดชี้แน่ด้วยค่ะ
          ขอโทษที่รบกวนอีกครั้ง
          ขอบคุณมากๆค่ะ

  14. peach พูดว่า:

    ขอบคุณมากๆเลยนะคะ ทำตามที่พี่เขียนบอกแล้วตอนนี้ได้อยู่ญี่ปุ่นแล้วคะ ต้องขอบคุณจริงๆนะคะ พี่น่ารักใจดีอธิบายเข้าใจง่ายมากๆ ไม่รู้จะขอบคุณยังไงแต่ซึ้งมากๆค่ะ ขอบพระคุณจากใจจริงค่ะ

    • okusan okusan พูดว่า:

      ขอบคุณมากๆนะคะซึ้งใจเช่นกันค่ะดีใตที่บทความมีประโยชน์ค่ะ มีอะไรปรึกษาได้เสมอนะคะ
      และพี่จะดีใจมากๆฝากกดติดตามช่องยูทูปของพี่ด้วยนะคะ55555 คนตามน้อยจ้อยมาก เศร้าโศกค่ะ
      https://www.youtube.com/channel/UCBCGi6FwAoyp3irxoGu0S0w?sub_confirmation=1
      -v- ขอบคุณค่ะ