เที่ยวเกียวโต(Kyoto) 2วัน1คืนด้วยตัวเองในงบ3,100บาท

ใครที่กำลังวางแผนจะมาเที่ยวเกียวโตช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือช่วงหน้าหนาว คิดกันอยู่ใช่มั้ยหล่ะว่าจะวางแผนทริปนี้อย่างไรให้ราคาประหยัดถูกที่สุด และเที่ยวครบในทุกๆที่มีชื่อเสียงของเมืองเกียวโต วันนี้โอคซังจึงได้จัดทำโปรแกรมรีวิวเที่ยวเกียวโตใน2วัน1คืน โดยเพื่อนๆสามารถเที่ยวตามโปรแกรมเที่ยวที่โอคซังทำไว้ก็จะสามารถเที่ยวกินลมชมวิวในเกียวโตได้แบบไม่มีปัญหาและที่สำคัญราคายังถูกสุดๆเหมาะสำหรับคนที่ต้องการเที่ยวเกียวโตด้วยตัวเองจะเที่ยวในรูปแบบกรุ้บ หรือจะเที่ยวคนเดียวก็สบายหายห่วงมากๆค่ะ พร้อมแจกแผนที่บัสสำหรับเดินทางไว้ด้วยเลยค่ะ ดาวโหลดแผนที่เกียวโตฉบับภาษาอังกฤษ ไม่มีภาษาไทยนะคะ แผนที่นี้สามารถขอได้ที่สถานีรถไฟทั่วไปของญี่ปุ่นค่ะ แต่ถ้าไม่มีให้ดาวโหลดติดตัวไว้นะคะ

หรือเพื่อนๆคนไหนมีเวลาเที่ยวเกียวโตเพียง1วันก็สามารถทำตามได้โดยเลือกวันที่ชอบแล้วเดินทางตามที่โอคซังเขียนไว้ได้เลยค่ะ ไม่ว่าคนที่เดินทางมาจากโอซาก้า หรือจากมุมไหนของญี่ปุ่นขอเพียงแค่ทำตามโปรแกรมที่เขียนไว้รับรองว่าไม่เหนื่อยไม่หลงแน่นอนค่ะ

ตารางเที่ยวเกียวโตวันที่1 โซนGion

kyoto-trip1

9:30 จุดเริ่มต้นที่ Kyoto Station เพื่อเดินทางไปที่ร้านเช่าชุดกิโมโนยูเมะยะกาตะค่ะ

โดยนั่งรถไฟใต้ดินสาย Karasuma ไปแค่1สถานีลงที่สถานีชื่อ Gojo แล้วเดินออกทางทางออกที่1 เดินตรงไปที่ร้านประมาณ3-4นาทีค่ะ (ค่ารถไฟใต้ดิน 210เยน/คน) จริงๆใช้เวลาจาก Kyoto Station ไปที่ร้านประมาณ 15นาทีค่ะ แต่โอคซังเผื่อเวลาเพื่อนๆเดินหาป้ายขึ้นรถไฟไว้ที่15นาทีสำหรับมือใหม่ค่ะ

10:00น. แปลงโฉมเป็นชาวเกียวโต(ค่าชุดประมาณ3,000เยน/คน) : 

รีวิวเช่าชุดยูกาตะ

กิจกรรมแรกคือการไปเช่าชุดกิโมโนข้อนี้เพื่อนๆต้องทำการบ้านเรื่องร้านเช่ากิโมเพื่อไม่ให้เสียเวลาค่ะแต่ถ้าโอคซังแนะนำ โอคซังจะแนะนำที่ร้าน Yumeyakata ที่โอคซังเคยทำงานอยู่และไปประจำค่ะร้านนี้มีพนักงานคนไทยคอยบริการน่ารักจับใจม๊ากมาก จองง่ายๆผ่านทางเฟสบุคร้านค่ะhttps://www.facebook.com/Kyoto.Yumeyakata.Thai/ เมื่อแต่งตัวสวยแล้วเราจะมีอินเนอร์ความสนุกที่เพิ่มขึ้นสองเท่าตัว! ที่แน่นอนเลยคือไม่ต้องเขิลอายค่ะเพราะที่เกียวโตถือว่าเป็นเรื่องที่ปกติมากๆ บ้างใส่เดินช้อปปิ้ง บ้างใส่ไปออกเดท บ้างใส่ไปร้องคาราโอเกะ เยอะกว่านี้ก็ทำมาแล้วค่ะ มาใส่ชุดกิโมโนเที่ยวเกียวโต1วันแล้วฝนยังจะตกอีก! จะเป็นอย่างไร[รีวิว]

10:30น. มุ่งสู่วัดน้ำใส(Kiyomizu-Dera)(ค่ารถบัสเหมาวัน600เยน+ค่าเข้าวัด300เยน) : 

ใช้เวลาแต่งตัวเปลี่ยนชุดครึ่งชั่วโมงก็รีบออกจากร้านเดินไปนั่งรถบัสสาย 80 ป้ายใกล้ร้านตรงสู่วัดน้ำใส (Kiyomizu-dera)ชื่อสถานี Kiyomizu michi ได้เลยค่ะ ป้ายขึ้นรถเมื่อออกจากร้านให้หันไปทางซ้ายมือมองไปข้างหน้าจะเห็นสะพานลอยป้ายจะอยู่ข้างหน้าสะพานลอยค่ะ แต่ถ้าใครไม่รู้ว่าป้ายขึ้นรถไปวัดน้ำใสอยู่ตรงไหนจริงๆถามพนักงานในร้านเช่าชุดกิโมโนได้เลยค่ะ

บัตรบัสเกียวโต

เมื่อขึ้นรถบัสไปแล้วก่อนลงรถให้บอกกับพนักงานขายตั๋วค่ะว่าขอซื้อOne-day ticket เป็นบัตรแบบเหมาวันค่ะสามารถใช้รถบัสกี่ครั้งก็ได้เตรียมเงินให้พร้อมเพราะคนขับไม่มีเงินทอนค่ะ คนละ600เยน  อ่านวิธีใช้บัตรหมาวันKyoto city bus

วัดน้ำใส

เมื่อถึงสถานีชื่อ Kiyomizu michi ก็แสดงว่ามาถึงวัดKiyomizu มรกดโลกแห่งนี้เรียบร้อยแล้ว!! เป็นวัดที่เป็นที่นิยมมากว่าพันปีแล้ว และมีเทคนิคการสร้างที่พิเศษมากๆค่ะ และมีจุดดึงดูดนักท่องเที่ยวคือมุมถ่ายภาพวัดที่รายล้อมไปด้วยต้นไม้สีสันสดสวยในทุกฤดูกาล หรือในบางช่วงเทศกาลในเวลากลางคืนก็มีการประดับแสงไฟเป็นงาน Light-upให้ชาวเกียวโตและนักท่องเที่ยวตื่นตาตื่นใจกันอีกด้วย! แต่วัดน้ำใส(Kiyomizu-dera) 清水寺 แบบปิดปรับปรุงซ่อมแซม!![รีวิว]จะเป็นอย่างไร

12:00น. พักทานอาหารกลางวัน (1,200-2,000เยน) : 

อาหารกลางวันถ้าซื้อเป็นเซตราคาจะอยู่ในช่วง1,200-2,000เยนค่ะ แนะนำว่าให้ทานแถววัดนั้นได้เลยค่ะ อิ่มเอมในบรรยากาศไปอีกหลายตลบ

13:00น. ช้อปปิ้งที่ถนนสายกาน้ำชา (0เยน) : 

ถนนโบราณนี้จะพาดยาวอยู่ก้านหน้าวัดน้ำใส เรียกว่าถนนสายกาน้ำชาซึ่งมีเสน่ห์มากๆค่ะ เพื่อนสามารถเดินซื้อของฝากแบบฉบับเกียวโตได้จากที่นี้มากมายแลยค่ะ โดยเฉพาะสินค้าทำมือน่ารักๆ หรือ พัดญี่ปุ่น ร่มญี่ปุ่น ชาเขียว ขนมญี่ปุ่นโบราณ ที่นี้จะทำให้ทุกคนหน้ามืดตาลาย จ่ายเงินออกจากกระเป๋าแบบไม่รู้ตัวเลยหล่ะค่ะ โอคซังโดนมาแล้วค่ะ หรือถ้าใครไม่ซื้ออะไรถ่ายรูปแบบเพลิดเพลินก็สนุกไม่แพ้กันค่ะ แถวๆนั้นจะมี Hello Kitty house คาเฟ่คิตตี้สุดน่ารักในเกียวโต! ญี่ปุ่น[รีวิว] และTotoro(โตโตโร่)มีร้านของฝากญี่ปุ่นด้วยนะ!สำรวจสาขาในเกียวโตกัน

15:00 เดินทางไปยัง Fushimi-inari ศาลเจ้าจิ้งจอกหรือศาลเจ้าเสาแดง (210เยน) :

 

วิธีเดินทาง : ใช้บัตรเหมาวันบัสนั่งรถบัสจากป้าย Kiyomizu-michi สาย206 ดูปลายทางKtoto-stationนะคะเพราะเราจะเดินทางลงทางทิสใต้ของแผนที่ นั่งไป5ป้าย(ประมาณ10นาที)ไปลงสถานี Shichi-jo Keihan maeค่ะ แล้วเดินไปขึ้นรถไฟที่สถานี Shichijo Station ค่ะ โดยเราจะนั่งKeihan Line ลงไปทางใต้ของแผนที่จุดหมายปลายทางคือสถานี Fushimi-inari station โดยใช้เวลาประมาณ20นาทีราคาตั๋ว 210 เยนค่ะ

ใครที่มาที่Fushimi inari  ที่นี่จะต้องเดินกันเก่งๆหน่อยนะคะ สำหรับผู้ไม่ยอมแพ้อยากพิชิตยอดเขาก็สามารถเดินขึ้นไปเรื่อยๆได้เลยค่ะ และโอคซังไปมาหลายรอบมากๆ ก็ขึ้นไปไม่ถึงสักที ที่แน่ๆคือยอมแพ้และขอถ่ายรูปกับเสาสีแดงสดๆก็พอค่ะ ค่าเข้าชมฟรีค่ะ

17:30น. ไปเดินเล่น Gion (210เยน) :

ย่านGionนี้มีชื่อเสียงเรื่องสถาปัตยกรรมแบบญี่ปุ่นโบราณที่สวยงามมากถึงมากที่สุด คนที่มาตรงนี้ส่วนใหญ่จะมาชมการแสดงของไมโกะ บางคนจะได้เห็นไมโกะแบบแว้บๆก็จากบริเวณGionนี้เลยค่ะ หรือบางคนก็มาถ่ายภาพ โอคซังจึอยากแนะนำร้านน่านั่งรวมแนะนำคาเฟ่เกียวโตน่ารัก น่านั่ง น่ากิน ถ่ายรูปสวย!สายของหวานต้องไปโดน!

Fushii-gion

วิธีเดินทาง ให้เดินกลับไปที่สถานีรถไฟที่เรามาค่ะ คือ Fushimi-inari station ให้นั่งขึ้นไป5สถานี ลงวถสถานี Gion-shijo Stationค่ะ (Fushimi-inari staion>Tobakaido>Tofukuji>Shinchijo>Kiyomizu-Gojo>Gion-shijo)

19:00 กลับไปคืนชุดที่ร้านกิโมโน(0เยน) :

gion

ใช้ตั๋วบัสเหมาวันนั่งรถบัสสาย 80 นั่งจากป้าย Shijo Keihan mae นั่งลงไป5ป้าย(10นาที) ลงที่สถานี Karasuma Gojo ค่ะ แล้วเดินตรงไปยังร้านประมาณ1นาทีค่ะ ใช้เวลาถอดชุดคืนประมาณ30นาที ก็เดินตัวเบาๆออกจากร้านพร้อมกลับที่พักแล้วค่ะ

19:30 เดินทางกลับไปที่ Kyoto Staion (210เยน)

เมื่อออกมาจากร้านแล้วให้เราใช้รถไฟฟ้าใต้ดินกลับทางเดิมค่ะ โดยเดินไปนั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปเพียง1สถานีมุ่งสู่ Kyoto Stationได้เลยค่ะ

และแล้วทริปในวันแรกก็จบลงด้วยความสนุกสนานเต็มเปี่ยมในความรู้สึกแบบญี่ปุ่นโบราณพร้อมกับเก็บภาพสวยๆไปในตัว

สรุปค่าใช้จ่ายวันที่1 ค่าเช่าชุดกิโมโน3,000เยน+ค่าบัตรบัสเหมาวัน600เยน+ ค่ารถไฟฟ้าใต้ดิน840เยน+ค่าเข้าชมวัด300เยน+ค่าอาหารกลางวันแบบแพงสุด2,000เยน = 6,740เยน (ประมาณ2,000บาท) 

*ราคานี้ยังไม่รวมค่าของฝากค่าช้อปปิ้งส่วนตัว ค่าที่พัก

ข้อควรระวัง

  • ควรซื้อตั๋วบัสแบบเหมาวันเพื่อใช้รถบัสภายในเกียวโตเพราะหากหลงทางยังไงก็สามารถขึ้นบัสได้ตลอดกี่เที่ยวก็ได้โดยไม่ต้องเสียเงินเพิ่มแต่อย่างใด และอีกเหตุผลคือในเกียวโตจะนิยมใช้รถบัสที่มีทั่วถึงทุกพื้นที่ในจังหวักมากกว่ารถไฟค่ะ 
  • ควรพกแผนที่ติดตัวและหมั่นดูแผนที่เสมอๆ
  • หากไม่เข้าใจเส้นทางให้ถามคนในพื้นที่แถวๆนั้นได้เลยไม่ต้องเขิลอายค่ะชาวเกียวโตทุกคนยินดีช่วยเหลือย่างเต็มที่
  • หากมาในช่วงอากาศเย็นควรซื้อแผ่นความร้อนติดตัวไว้เสมอ

ตารางเที่ยวเกียวโตวันที่2 ชมธรรมชาติและช้อปปิ้ง

kyoto-trip2

8:20 จุดเริ่มต้นที่ Kyoto Station เพื่อเดินทางไปวัดทอง Kinkakuji Temple(1000เยน)

จุดเริ่มต้นที่ Kyoto Station ให้นั่งรถบัสสาย 205 ในโซนรอ C ค่ะ ห้ามไปผิดโซนอื่นนะคะเพราะจะมีบัส205เช่นกันแต่ไปคนละทางค่ะ ให้ลงป้ายที่ชื่อKinkakuji-michiใช้เวลาประมาณ40นาที

เมื่อขึ้นรถบัสไปแล้วก่อนลงรถให้บอกกับพนักงานขายตั๋วค่ะว่าขอซื้อOne-day ticket เป็นบัตรแบบเหมาวันค่ะสามารถใช้รถบัสกี่ครั้งก็ได้เตรียมเงินให้พร้อมเพราะคนขับไม่มีเงินทอนค่ะ คนละ600เยน  แล้วเดินต่อไปยังวัดไม่เกิน3นาทีค่ะ ไม่ต้องกลัวหลงเลยค่ะเพราะเมื่อลงรถแล้วจะสังเกตุเห็นป้ายบอกทางได้ง่ายมากๆ

วัดทอง เกียวโต ปิดกี่โมง

จุดเด่นของวัดทอง(Kinkakuji temple)คือต้องเดินขึ้นไปเรื่อยๆแล้วมองลงมายังด้านล่างจะเห็นทิวทัศน์ที่สวยงามจับใจลืมไม่ลงแน่ๆค่ะ แล้ววัดคินคะคุจิ(Kinkakuji)หรือวัดทองในภาพความฝันกับความเป็นจริง!ต่างกันอย่างไร!ยิ่งในช่วงใบไม้เปลี่ยนสีหรือช่วงหิมะปกคลุมแนะนำว่าห้ามพลาดเด็ดขาด ค่าเช้าชม 400เยน 

10:30 เดินทางไปยัง Arashiyama ทะเลสาบเงียบสงบที่รายล้อมไปด้วยหมู่มวลภูเขาสีสดสวยงาม(720เยน)

ให้ขึ้นรถบัสในฝั่งตรงกันข้ามกับที่เราลงมา นั่งสาย101, 102, 204, 205อีกเช่นเคย(ซื้อตั๋วแบบเหมาวันไปแล้วไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าตั๋วเพิ่ม) ให้นั่งลงไปทางเดิมที่เราขึ้นมา ลงที่ป้าย Kitanohakubaicho คิทาโนะฮาคุไบโจ (Kinkakuji-michi>waratejin mae> Kinugasa Komae> Kitanohakubaicho )เมื่อลงรถแล้วให้เรามองดูรอบๆ จะมองเห็นสถานีรถไฟท้องถิ่นอยู่ข้างๆกับซุปเปอร์มาเก็ตขนาดใหญ่ ขื่อสถานี  Kitano-Hakubaicho Station เดินไปขึ้นรถไฟที่นี่ได้เลยค่ะ

arashiyama

  • ให้เราเดินไปขึ้นรถไฟท้องถิ่นนี้ โดยซื้อตั๋วหน้าสถานี(ราคา 220เยน) นั่งไปลงสถานี Katabiranotsuji (Kitanohakubaicho> Tojiin> Ryoanji> Myoshinji> Omuro ninnaji> Utano> Narutaki> Tokiwa> Satsueisho>Katabiranotsuji )
  • ออกจากรถไฟแล้วขึ้นเปลี่ยนสาย ไปเส้น Arashiyama Line ลงสถานี Arashiyama (Katabiranotsuji> Arisugawa> Kurumasakijinja> Rokuoin> Randen-Saga> Arashiyama

เมื่อออกมาจากสถานีแล้วจะเหมือนเราหลุดออกมาอีกโลกหนึ่งเลยค่ะ สองข้างทางจะเต็มไปด้วยร้านค้าทั้งขายของฝาก ขนม ต่างๆ เราสามารถเดินเพลินๆตรงนี้ได้หลายชั่วโมงเลยค่ะ ถ้าเราเดินออกมาเรื่อยๆ หรือเดินตามฝูงชน เราจะเดินมาจนกระทั่งเจอสะพานข้ามทะเลสาบขนาดใหญ่มากๆ หากใครที่ต้องการจะเดินขึ้นไปบนเขาเพื่อความความงามของธรรมชาติแบบญี่ปุ่นต้องข้ามสะพานนี้ไปก่อนค่ะ ระหว่างทางเราจะได้ชมความงามของทะเลสาบ ที่รายล้อมไปด้วยภูเขา และต้นไม้อย่างสวยงาม เมื่อเดินขึ้นไปบนเขาเราจะเจอกับวัดที่อยู่ข้างใน ชื่อวัด Tenryoji Temple

วัดTenryoji Temple จะมีบรรยากาศที่เงียบสงบและสวยงามมากๆค่ะ ชาวญี่ปุ่นที่มาเที่ยวจะนิยมมานั่งผ่อนคลายชมสวน แต่ในฤดูกาลท่องเที่ยวอาจจะมีนักท่องเที่ยวหนาแน่นหน่อยนะคะ ค่าเข้าชม500เยน

12:00 พักทานอาหารกลางวัน(1,500-2,000เยน)

อาหารญี่ปุ่น

เพื่อนๆสามารถพักทานอาหารกลางวันบริเวณรอบๆนี้ได้เลยค่ะ อาหารมีหลากหลายราคา ราคาค่อนข้างสูงแต่ก็มาพร้อมกับคุณภาพที่มากขึ้นตามค่ะ ถ้ามาหลายๆคนสามารถสั่งมาแล้วแชร์กันจ่ายก็ได้ค่ะ ถ้ามาคนเดียวแบบเป็นเซตก็มีค่ะ

13:00 ป่าไผ่ Bamboo Frorest(0เยน) 

เมื่อทานอาหารเอาแรงแล้วก็ลุยกันต่อที่ผ่าไผ่ได้เลยค่ะ ผ่าไผ่แห่งนี้จะเป็นทางเดินทอดยาวไกลมาก สองข้างทางจะเต็มไปด้วยต้นไผ่สีเขียวชะอุ่ม ไผ่ที่เรามองเห็นนี้ถ้าสังเกตุดีๆต้นไผ่เหล่านี้จะเป็นไผ่กอเดียว(1 กอ 1ลำต้น) ทำให้การเรียงตัวของต้นไผ่ไม่หนาแน่นจนเกินไป แสงสว่างสามารถรอดผ้านได้อย่างทะลุปุโปร่ง ผ่าไผ่แห่งนี้จึงมีความสวยงามมากๆ 

15:00 เดินทางไปถนนสายช้อปปิ้งของชาวเกียวโต(0เยน) 

arashiyama-kawaramachi

เดินกลับไปที่Arashiyama Station ที่เรานั่งรถไฟมา แต่ครั้งนี้ให้เรามองไปที่ฝั่งตรงข้ามของหน้าสถานีจะมีป้ายรถบัสให้เรานั่งสาย11 ไป 27สถานี(50นาที) ลงที่สถานี Shijokawaramachi

ที่ย่านShijokawaramachiแห่งนี้จะทำให้เราตื่นตาตื่นใจในย่านช้อปปิ้ง และทำให้ช้อปปิ้งได้แบบมีความสุข ความแตกต่างที่เห็นได้ชัดระหว่างย่านช้อปปิ้งของเกียวโตกับที่อื่นๆ คือที่เกียวโตจะมีความสะอาดมากกว่าและมีการตกแต่งร้านค้าได้ผสมผสานกบกลิ่นไอความเป็นญี่ปุ่นโบราณได้อย่างลงตัว รับรองว่านอกจากจะได้ช้อปปิ้งอย่างสนุกสนานแล้วจะยังได้ถ่ายภาพแบบไม่อั้นเลยค่ะ

และสามารถทานอาหารเย็นในย่านนี้ได้เลยเพราะร้านอาหารก็เยอะมากๆเช่นกันค่ะ

18:00 เดินทางกลับยัง Kyoto Station (0เยน)

เดินกลับไปที่ป้ายรถบัส Shijokawaramachi  ให้ยืนที่ฝั่ง H&M ค่ะ แล้วนั่งบัสสาย 4, 7, หรือ 205 เพื่อไปลงปลายทางป้ายสุดท้ายที่ Kyoto Station โดยเราไม่ต้องจ้ายเงินเพิ่มแล้วเพราะซื้อบัตรบัสเหมาวันไปแล้ว

สรุปค่าใช้จ่ายวันที่2 ค่าบัตรบัสเหมาวัน600เยน+ ค่าเข้าชมวัด 900เยน+ ค่ารถไฟ220เยน +ค่าอาหารกลางวัน2,000เยน = 3,720เยน (ประมาณ1,100บาท)

*ราคานี้ยังไม่รวมค่าของฝากค่าช้อปปิ้งส่วนตัวและค่าที่พัก สำหรับค่าที่พักส่วนใหญ่จะราคา9,000เยน(2,700บาท/ คืน)แบบถูกสุดๆแล้วแต่ช่วงฤดูกาลนะคะ หรือบางคนประหยัดงบสุดๆด้วยการพักบ้านเพื่อนไปเลย

สรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมด

วันที่1 ราคา2,000บาท+วันที่2 ราคา1,100บาท = ประมาณ 3,100บาท 

ข้อแนะนำเพิ่มเติม

ควรเลือกที่พักที่เดินทางสะดวกเช่นอยู่ใกล้กับสถานี Kyoto Station ให้มากที่สุด เพราะหากหลงทางอย่างไรการเดินทางกลับมาที่ Kyoto Station จะเป็นการเดินทางกลับมาได้ง่ายที่สุด เพราะบัสเกือบทุกคันของเกียวโตจะมีปลายทางที่ Kyoto Stationเป็นส่วนใหญ่

เพียงเท่านี้ก็จะได้ทริปแสนพิเศษที่ทำให้หลงรักเกียวโตมากขึ้นกว่าเดิมแล้วค่ะ แต่หากใครที่มีเวลามากกว่า2วัน รับรองว่าจะสามารถเที่ยวได้มากกว่านี้แน่นอนค่ะ 

แต่สำหรับใครที่วางแผนเที่ยวเกียวโตใน1วันก็มีสถานที่เที่ยวแนะนำอีกมากเลยค่ะอยากจะลองเที่ยวเกียวโต1วันด้วยตัวเองไปศาลเจ้าคิฟุเนะ(KifuneJinja-Shrine)เกียวโตสุดลึกลับ!รีวิวละเอียดยิบหรือนั่งชิวๆโดยรวมแนะนำคาเฟ่เกียวโตน่ารัก น่านั่ง น่ากิน ถ่ายรูปสวย!สายของหวานต้องไปโดน!หรือในช่วงเทศกาลซากุระก็อยากจะแนะนำการเตรียมตัวไปเทศกาลฮานามิ(ชมซากุระแบบชาวญี่ปุ่น)เพื่อให้ทุกคนเตรียมตัวเที่ยวได้แบบสบายๆเลยค่ะ

มาตะเน้

COMMENTS